รัฐบาลเน้นความสนใจแก้ไขอุปสรรคของเศรษฐกิจ
Hồng Vân-VOV5 -  
(VOVworld)- ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในต้นปี2013เริ่มมีสัญญาณที่น่ายินดีที่สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพอันเป็นการสร้างเงื่อนไขที่สะดวกให้รัฐบาลปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือการขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ5.5และเงินเฟ้อต่ำกว่าร้อยละ7
(VOVworld)- ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามในต้นปี2013เริ่มมีสัญญาณที่น่ายินดีที่สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพอันเป็นการสร้างเงื่อนไขที่สะดวกให้รัฐบาลปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้คือการขยายตัวของจีดีพีอยู่ที่ร้อยละ5.5และเงินเฟ้อต่ำกว่าร้อยละ7
จากการที่กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆได้เร่งปฏิบัติมติของรัฐสภาและรัฐบาลเกี่ยวกับการพยุงราคาและผลักดันการผลิต สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมเดือนมกราคมปี2013เริ่มมีสัญญาณที่น่ายินดี โดยที่โดดเด่นคือยอดการชำระถึงวันที่21มกราคมปี2013ได้บรรลุผลงานที่เข้มแข็งและคาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ0.17เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี2012 ยอดสินเชื่อของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ10 การได้เปรียบดุลการค้าอยู่ที่200ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่มูลค่าการส่งออกบรรลุ10.1พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ43.2 ซึ่งในสภาวการณ์ที่การเงินมีเสถียรภาพ ดอกเบี้ยเงินกู้ก็ได้ลดลงซึ่งช่วยแก้ไขอุปสรรคของสถานประกอบการส่วนหนึ่ง ในขณะเดียวกันดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนนี้ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ1.25เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านและก็เป็นอัตราการขยายตัวเฉลี่ยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ท่านหวูดึ๊กดาม รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลได้เผยว่า ถึงแม้จะมีสัญญาณที่น่ายินดีแต่เราไม่ควรประมาทในการปฏิบัติ แผนการพัฒนาปีนี้ได้ระบุชัดว่าต้องพยายามบรรลุอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าปี2012 เช่นปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จในการรักษาอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ที่ร้อยละ7หรือต่ำกว่าเล็กน้อย แต่ปีนี้จะต้องลดลงอีกดังนั้นอัตราเงินเฟ้อที่ขยายตัวกว่าร้อยละ1ในเดือนนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องจับตาเพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการชี้นำการปฏิบัติโดยเฉพาะการกระชับความร่วมมือและประสานงานระหว่างสำนักงานต่างๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่วางไว้ทั้งปี
หนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจคือการฟื้นฟูตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวางแผนและการลงทุนตรวจสอบสถานการณ์ของบริษัทการก่อสร้าง ส่วนกระทรวงก่อสร้างรับหน้าที่ตรวจสอบสถานการณ์ตลาดอสังหาฯ โดยในเดือนมกราคมนี้ รัฐบาลได้ประกาศมติ02ที่สั่งให้ธนาคารชาติเตรียมปล่อยสินเชื่อ2หมื่นพันล้าน-4หมื่นพันล้านด่งในระยะ10ปีเพื่อสนับสนุนธนาคารพาณิชย์ต่างๆในการปล่อยกู้ซื้อบ้าน ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆต้องสงวนเงินจำนวนหนึ่งซึ่งอย่างน้อยต้องเป็นร้อยละ3ของยอดหนี้เพื่อปล่อยกู้ให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยในการชื้อหรือเช่าบ้านในอัตราดอกเบี้ยต่ำพร้อมกำหนดอัตราชำระที่เหมาะสมกับสถานภาพด้านการเงินของลูกค้า ท่านหวูดึ๊กดาม รัฐมนตรีประจำสำนักรัฐบาลได้ย้ำว่าในระหว่างการร่างและปฏิบัติมาตรการช่วยฟื้นฟูตลาดอสังหาฯรัฐบาลได้คำนึงถึงปัจจัยสองอย่างของตลาดภายในประเทศเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศนั่นคือเวียดนามกำลังพัฒนาดังนั้นตลาดอสังหาฯต้องขึ้นอยู่กับแขนงงานอื่นๆเช่นการก่อสร้าง วัสดุก่อสร้างและการผลิต เป็นต้น ปัจจัยที่สองคือคนเวียดนามส่วนใหญ่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง ดังนั้นรัฐบาลได้ย้ำถึงเรื่องนี้และมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมทั้งด้านการเงิน ที่ดินและการวางผังพัฒนาเพื่อแก้ไขอุปสรรคในด้านนี้และช่วยให้ผู้ที่มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการบริการที่พักอาศัยได้สะดวกขึ้น ตลอดจนการส่งเสริมการปรับเปลี่ยนเป้าหมายโครงการอสังหาฯต่างๆมาเป็นการพัฒนาโรงเรียนหรือโรงพยาบาล นอกจากนี้เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาด้านตลาดอสังหาฯ ธนาคารชาติกำลังพิจารณาข้อเสนอให้จัดตั้งบริษัทปล่อยกู้ด้านการเคหะแห่งชาติเพื่อนำไปรวบรวมความเห็นจากกระทรวงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เผยว่า เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระกับสถานประกอบการได้มีการปรับลดภาษีนำเข้าต่อสินค้าบางรายการเช่นถ่านหิน ประกาศใช้มาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อแก้ปัญหาสินค้าค้างสต๊อกเพื่อปรับเสถียรภาพการผลิตและส่งเสริมการขยายตัวในประเทศ แสวงหาตลาดส่งออกใหม่พร้อมทั้งเร่งรัดด้านการควบคุมตลาด
ทั้งนี้และทั้งนั้น สถานการณ์เศรษฐกิจสังคมเดือนมกราคมปี2013ก็สามารถประสบผลงานที่เข้มแข็งและบวกกับการบริหารชี้นำอย่างเคร่งครัดของรัฐบาล ความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นของกระทรวงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เศรษฐกิจของประเทศจะมีเสถียรภาพมากขึ้น อันเป็นการมีส่วนร่วมบรรลุเป้าหมายที่รัฐสภาได้วางไว้คือ จีดีพีขยายตัวที่ร้อยละ5.5และเงินเฟ้อต่ำกว่าร้อยละ7./.
Hồng Vân-VOV5