ส่งเสริมจิตใจของยุทธนาการเดียนเบียนฟูในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ

(VOVWORLD) - วันนี้ ครบรอบ 65 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟูที่ก้องกังวาลไปทั่วโลก โดยความหมายและบทเรียนเชิงประวัติศาสตร์ของชัยชนะดังกล่าวยังคงทรงคุณค่าและสร้างเป็นพลังจูงใจให้พรรค ประชาชนและกองทัพเวียดนามมีความมั่นใจเพื่อก้าวเดินบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศ ผสมผสานและพัฒนา การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ต่อไปนี้ ทางสถานีวิทยุเวียดนามขอคัดเสนอสาระสำคัญในบทความของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เหงียนซวนฟุ๊ก เกี่ยวกับการส่งเสริมจิตใจของยุทธนาการเดียนเบียนฟูในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ
ส่งเสริมจิตใจของยุทธนาการเดียนเบียนฟูในภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ - ảnh 1ชัยชนะเดียนเบียนฟู (Photo TTX)

บทความของนายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊ก นอกจากชี้ชัดถึงการตัดสินใจที่ถูกต้องในการเปิดยุทธนาการเดียนเบียนฟูช่วงต้นเดือนธันวาคมปี 1953 ของกรมการเมืองยังยืนยันความหมายที่ยิ่งใหญ่ของชัยชนะเดียนเบียนฟูที่มีผลในการวางแนวทางหลัก 4 แนวทางเพื่อสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้แก่การพัฒนาประเทศเวียดนามอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในปีต่อๆไป

ชัยชนะของลัทธิรักชาติ

นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กระบุว่า ชัยชนะในการต่อสู้กับนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศส โดยจุดสุดยอดคือยุทธนาการเดียนเบียนฟูคือชัยชนะของลัทธิรักชาติ และจิตใจแห่งความทรหดกล้าหาญของประชาชาติเวียดนาม เป็นชัยชนะของสงครามประชาชนที่ถูกต้องและมีความคิดสร้างสรรค์ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ของพลังแห่งความสามัคคีชนในชาติ รวมทั้งเป็นชัยชนะของความสามัคคี ความซื่อสัตย์มั่นคงของกองทัพและประชาชน 3 ประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชา ตลอดจนการสนับสนุนและการช่วยเหลือของเพื่อนมิตรระหว่างประเทศ

ชัยชนะดังกล่าวได้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้เป็นประเทศเล็กที่มีเศรษฐกิจล้าหลังแต่ถ้าหากอยู่ภายใต้การนำของพรรคที่ยืดถือลัทธิมาร์กซ์ – เลนิน มีแนวทางการเมืองและการทหารอย่างถูกต้อง สามารถส่งเสริมพลังของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วโลก ก็ย่อมชนะศัตรูผู้รุกรานได้แน่นอน ไม่ว่าศัตรูผู้รุกรานนั้นจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนก็ตาม และจิตใจแห่งชัยชนะที่ยิ่งใหญ่นั้นก็ได้รับการสานต่อในสงครามต่อต้านอเมริกาเพื่อกู้ชาติเพื่อปลดปล่อยภาคใต้ รวมประเทศเป็นเอกภาพ รวมทั้งในการสร้างผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่และมีความหมายทางประวัติศาสตร์ในภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสาน สร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิของเวียดนาม

ยืนหยัดเป้าหมายเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม

ด้วยเจตนารมณ์แห่งชัยชนะเดียนเบียนฟู นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้กำหนด 4 แนวทางเพื่อสร้างพื้นฐานพัฒนาประเทศอย่างรวดเร็วและยั่งยืนในเวลาข้างหน้า โดยแนวทางแรกคือ ต้องยืนหยัดเป้าหมายเอกราชประชาชาติและสังคมนิยม ซึ่งเป็นเงื่อนไขชี้ขาดเพื่อปฏิบัติภารกิจการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิในสภาวการณ์ใหม่ให้ประสบความสำเร็จ จากสถานการณ์โลกและภูมิภาคที่มีความซับซ้อน รวมทั้งความพยายามทำลายการปฏิวัติในเวียดนามจากฝ่ายที่เป็นอริ เวียดนามยังต้องยืนหยัดเป้าหมายเอกราชของประชาชาติและสังคมนิยม ลัทธิมาร์กซ์- เลนิน แนวคิดโฮจิมินห์และเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

เวียดนามต้องตระหนักได้ดีและปฏิบัติแนวทางการเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างรอบด้านและพร้อมเพรียงของพรรคฯอย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ ถือการพัฒนาเศรษฐกิจเป็นหน้าที่หลัก การสร้างสรรค์พรรคเป็นหน้าที่สำคัญ การพัฒนาวัฒนธรรมเป็นพื้นฐานจิตใจทางสังคม ประสานการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมพร้อมกับหน้าที่การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคงและการต่างประเทศอย่างแน่นแฟ้น

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า ในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ต้องยึดมั่นในทุกเป้าหมายและหลักการเชิงยุทธศาสตร์ มีความคล่องตัวในการปฏิบัตินโยบาย ตั้งใจและยืนหยัดในการต่อสู้ ถือการปกป้องเอกราช อธิปไตย บูรณะภาพแห่งดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศและประชาชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด ตลอดจนการรักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศให้เจริญเข้มแข็ง มีประชาธิปไตย ยุติธรรมและอารยธรรม

นายกรัฐมนตรียังกำชับให้ยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานของทั้งระบบการเมือง ส่งเสริมพลังความเข้มแข็งของกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติ ปลุกเร้าความใฝ่ฟันในการพัฒนาก้าวหน้าของประชาชาติเวียดนาม นี่คือหน้าที่ที่เร่งด่วนและมีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวของการปฏิวัติเวียดนาม

นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ระบุว่า ในสภาวการณ์ใหม่ ต้องยืนหยัดแนวทางการต่างประเทศของพรรคฯ ตามแนวทาง เอกราช พึ่งพาตนเอง สันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนา หลายรูปแบบหลายฝ่าย ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งและเป็นฝ่ายรุก มุ่งสู่การผลักดันและยกระดับสถานะของการทูตพหุภาคีและทวิภาคี เป็นมิตรและหุ้นส่วนที่น่าไว้วางใจและเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบสูงของประชาคมระหว่างประเทศเพื่อสามารถใช้การสนับสนุนของประชาคมระหว่างประเทศในการสร้างบรรยากาศที่สันติและสร้างเงื่อนไขที่สะดวกให้แก่การสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาปิตุภูมิ ควบคู่กันนั้น ต้องเน้นสร้างสรรค์รัฐบาลและระบบการบริหารราชการที่มีความซื่อสัตย์สุจริตและมีความสร้างสรรค์ ตอบสนองความต้องการของการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมและกระบวนการผสมผสานระหว่างประเทศ อำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและสถานประกอบการในการเปลี่ยนแปลงใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ในการผลักดันการผลิต การประกอบธุรกิจและการทำธุรกิจ start – up

ปกป้องประเทศให้มั่นคง

ในสภาวการณ์ที่โลกมีความผันผวนมากมาย นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กเผยว่า เวียดนามต้องส่งเสริมขบวนการปวงชนป้องกันประเทศอย่างเข้มแข็งและรอบด้านให้นับวันทันสมัยมากขึ้น ให้ความสนใจเป็นพิเศษเพื่อส่งเสริมขบวนการนี้ควบคู่กับขบวนการปวงชนรักษาความมั่นคงให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะในท้องถิ่นที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ เขตชายแดน หมู่เกาะและทะเล นี่คือหน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและเป็นความรับผิดชอบของทั้งระบบการเมือง พรรค ประชาชนและกองทัพ นอกจากนี้ เวียดนามยังต้องขยายและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและการต่างประเทศในด้านกลาโหม รวมทั้งการเข้าร่วมภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ

นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กยังชี้ชัดว่า เวียดนามควรเน้นสร้างสรรค์กองกำลังติดอาวุธประชาชนให้เข้มแข็ง รอบด้านเพื่อตอบสนองการเป็นที่พึ่งที่น่าไว้วางใจและซื่อสัตย์ของประเทศ พรรค รัฐและประชาชนเวียดนาม ยกระดับคุณภาพและพลังการต่อสู้ของกองทัพ ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยมากขึ้น

ในท้ายของบทความ นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊กได้ยืนยันว่า ในโอกาสฉลองครบรอบ 65 ปีชัยชนะเดียนเบียนฟู จากการส่งเสริมเกียรติประวัติแห่งความรักชาติ ความภาคภูมิใจของประชาชาติ ความมุ่งมั่นตั้งใจต่อสู้เพื่อชัยชนะ พรรค ประชาชนและกองทัพเวียดนามจะร่วมแรงร่วมใจปฏิบัติภารกิจการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานและพัฒนาประเทศให้ประสบความสำเร็จ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด