อังกฤษ: เป้าหมายใหม่ของการก่อการร้าย
(VOVWorld)-ภายหลัง๑ปีที่เกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายในประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต๓๒คนและได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน เมื่อวันที่๒๒มีนาคม ก็ได้เกิดเหตุโจมตีใส่อาคารรัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอน ซึ่งได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก นี่เป็นการโจมตีก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประเทศอังกฤษในรอบ๑๐ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันที่๗กรกฎาคมปี๒๐๐๕ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ๖๐คน ซึ่งเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า บรรดาประเทศยุโรปกำลังประสบอุปสรรคในการป้องกันการโจมตีก่อการร้าย
(VOVWorld)-
ภายหลัง๑ปีที่เกิดเหตุโจมตีก่อการร้ายในประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต๓๒คนและได้รับบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน เมื่อวันที่๒๒มีนาคม ก็ได้เกิดเหตุโจมตีใส่อาคารรัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอน ซึ่งได้สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลก นี่เป็นการโจมตีก่อการร้ายที่รุนแรงที่สุดในประเทศอังกฤษในรอบ๑๐ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เหตุลอบวางระเบิดเมื่อวันที่๗กรกฎาคมปี๒๐๐๕ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ๖๐คน ซึ่งเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นการแสดงให้เห็นว่า บรรดาประเทศยุโรปกำลังประสบอุปสรรคในการป้องกันการโจมตีก่อการร้าย
สถานที่เกิดเหตุ (Photo: vietnamplus.vn)
|
จำนวนผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีใส่อาคารรัฐสภาอังกฤษเมื่อวันที่๒๒มีนาคมได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ๕๐คน ซึ่งในนั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย๕คนและวิธีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในกรุงลอนดอนก็คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นที่เมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสและกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี นาง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายและเรียกร้องให้ประชาชนส่งเสริมความสามัคคีกัน
จากความเสี่ยงจนถึงสถานการณ์ที่เป็นจริง
ก่อนที่จะเกิดการโจมตีดังกล่าว บรรดานักวิเคราะห์ได้ออกคำเตือนหลายครั้งว่า สมาชิกของกลุ่มไอเอสพร้อมเครือยข่ายสมาชิกเรียกว่า “หมาป่าโดดเดี่ยว”ที่กำลังหลบหนีในประเทศอังกฤษและมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดการโจมตีครั้งต่างๆในประเทศนี้เพื่อตอบโต้อังกฤษที่ให้การสนับสนุนการโจมตีทางอากาศใส่เมืองโมซูล ประเทศอิรัก นาย Richard English ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยBelfast Queenและมหาวิทยาลัย St Andrewsเคยให้ข้อสังเกตว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโจมตีครั้งใหญ่ใส่อังกฤษ ส่วนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาย แม็กซ์ฮิลล์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้ายของอังกฤษได้ยอมรับว่า เมืองต่างๆของอังกฤษอยู่ในเป้าหมายขององค์การก่อการร้ายและผู้เคราะห์ร้ายจากการโจมตีดังกล่าวคือประชาชนผู้บริสุทธิ์ ในการกล่าวปราศรัยผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเมื่อวันที่๒๖กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นาง แอมเบอร์ รัดด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอังกฤษได้เห็นพ้องกับการประเมินของนาย แม็กซ์ฮิลล์เกี่ยวกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายที่อังกฤษต้องเผชิญ พร้อมทั้งยืนยันว่า การปกป้องประเทศเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยต้องปฏิบัติ ก่อนหน้านั้น เมื่อต้นปี๒๐๑๖ กลุ่มไอเอสก็ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่ขู่ว่า จะทำการโจมตีอังกฤษ
ตำรวจอังกฤษก็เคยตรวจพบอุปกรณ์และจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่มีแผนการโจมตีก่อการร้ายเมื่อปลายปี๒๐๑๖ แม้ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แต่นี่ก็เป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่า กลุ่มก่อการร้ายกำลังกลับเข้ามาในอังกฤษ สิ่งที่น่าสนใจคือ สำนักงานความมั่นคงของอังกฤษสามารถสกัดกั้นแผนการโจมตีก่อการร้าย๑๓ครั้งในช่วงเกือบ๔ปีที่ผ่านมา
นาง เทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ (Photo: vietnamplus.vn)
|
ปฏิบัติการรับมือของทางการอังกฤษ
เพื่อรับมือกับการโจมตีก่อการร้าย อังกฤษได้มีการปฏิรูปต่างๆหลังจากที่ยอมรับว่า ภัยคุกคามจากการก่อการร้ายจะไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววัน โดยนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี๒๐๑๔ นาง เทเรซา เมย์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในช่วงนั้น ได้สั่งให้กองกำลังตำรวจตั้งอยู่ในภาวะเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย โดยทางการอังกฤษได้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัยตามถนนสายต่างๆและสถานีรถไฟใต้ดินและตำรวจจราจรก็ผลักดันการลาดตระเวณตามถนนสายต่างๆของกรุงลอนดอน ในรอบ๒ปีที่ผ่านมา อังกฤษดำรงการงประกาศภาวะเตือนภัยก่อการร้ายระดับ๒ ควบคู่กันนั้น ได้มีการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ของกองกำลังต่อต้านการก่อการร้าย โดยหน่วยข่าวกรองอังกฤษหรือMI ๖ได้เปิดรับสมัครสายลับ๑พันคนในรอบ๕ปีที่จะถึง ส่วนหน่วยความมั่งคงแห่งชาติของอังกฤษหรือ MI ๕และศูนย์บัญชาการการสื่อสารของรัฐบาลอังกฤษก็ได้รับสมัครเจ้าหน้าที่อีก๑พันคน นาย Alex Younger ผู้อำนวยการของMI๖ได้เผยว่า อังกฤษจะสงวนวงเงิน๒.๕พันล้านปอนด์ให้แก่งบประมาณของหน่วยข่าวกรองและความมั่นคงเพื่อค้ำประกันแหล่งพลังต่างๆในการทำลายแผนการก่อการร้ายที่มุ่งเป้าไปยังอังกฤษในทุกระยะ
อังกฤษก็ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อต้านการก่อการร้าย โดยในการเยือนกรุงปารีส เมื่อวันที่๒๘กรกฎาคมปี๒๐๑๖ นาย บอริสจอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษได้เห็นพ้องกับนาย ฌ็อง-มาร์ก เอโร รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านนี้ โดยยืนยันว่า อังกฤษจะร่วมกับฝรั่งเศสในการต่อต้านการก่อการร้าย อังกฤษก็ได้ให้คำมั่นเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้ายกับประเทศต่างๆ
นี่เป็นสิ่งที่อังกฤษได้ปฏิบัติก่อนที่จะเกิดการโจมตี เมื่อวันที่๒๒มีนาคมและแน่นอนว่า นับจากนี้ไป อังกฤษจะมีปฏิบัติการที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อค้ำประกันความมั่นคง แต่อย่างไรก็ดี แม้จะมีการพยากรณ์และการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าวแต่การโจมตีก่อการร้ายยังคงเกิดขึ้นเมื่อวันที่๒๒มีนาคม ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ ประเทศอังกฤษยังคงประสบอุปสรรคในการต่อต้านการก่อการร้าย.