ภาพการประชุม (VNA)

ในการประเมินสถานการณ์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เผยว่า การแพร่ระบาดระลอกที่ 4 ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้าในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในท้องถิ่นหลายแห่งของเวียดนามได้ส่งผลให้เวียดนามต้องปฏิบัติมาตรการที่ไม่เคยปฏิบัติมาก่อนอย่างเข้มงวดและเคร่งครัดโดยเฉพาะการให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน

งานด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 คือประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการชี้นำ

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ระบุว่า ในหลายเดือนที่ผ่านมา งานด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 คือประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการชี้นำและบริหารอย่างเข้มแข็งและเคร่งครัดของรัฐบาล หน่วยงานและทางการปกครองทุกระดับบนเจตนารมณ์ สานต่อและเปลี่ยนแปลงใหม่ เกาะติดสถานการณ์และปรับตัวให้สอดคล้องกับการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ จากการเข้าร่วมอย่างเข้มแข็งของทั้งระบบการเมืองและประชาชน งานด้านการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดนับวันมีผลงานที่น่ายินดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากที่ทำการยกระดับและปรับปรุงคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 และการส่งเจ้าหน้าที่ไม่ว่าจะเป็น ทหาร หมอ พยาบาลและตำรวจเกือบ 300,000 คนจากส่วนกลางไปยังท้องถิ่นต่างๆเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมทั้งผลักดันการทูตวัคซีน และการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่อย่างไม่เคยมีมาก่อน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า “อาจกล่าวได้ว่า เราได้พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว ซึ่งผลที่ได้รับตามการประเมินของส่วนกลางคือ “แนวทาง นโยบายและมาตรการที่ได้รับการปฏิบัติในเวลาที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทันกาลได้รับการชี้นำและปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งได้ประสบผลงานที่สำคัญต่างๆ ถึงขณะนี้ เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดีในขอบเขตทั่วประเทศและเรากำลังปฏิบัติขั้นตอนการปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัวและควบคุมการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพในท้องถิ่นหลายแห่ง” สิ่งที่โดดเด่นคือ ในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุดของการแพร่ระบาด จิตใจแห่งความสามัคคีชนในชาติได้รับการส่งเสริมอย่างเข้มแข็ง ซึ่งได้มีตัวอย่างและการปฏิบัติที่น่าภูมิใจและซึ้งใจเป็นอย่างมาก”

ไม่ปล่อยให้พลังขับเคลื่อนลดลงในระยะยาว

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า จากผลกระทบของการแพร่ระบาด คาดว่า มีเป้าหมายหลักด้านเศรษฐกิจสังคมของปี 2021 รวม 4 เป้าหมายจากจำนวน 12 เป้าหมายยังคงไม่สามารถบรรลุ ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจลดลง จำนวนแรงงานที่ต้องหยุดงาน ไม่มีงานทำหรือว่างงานเพิ่มขึ้นและจำนวนสถานประกอบการที่ต้องยุติการประกอบธุรกิจอยู่ในระดับสูง

จากสถานการณ์ดังกล่าว นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า ในเวลาที่เหลือของปี 2021 จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด มีขั้นตอนเพื่อปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัวและพยายามควบคุมการแพร่ระบาดในทั่วประเทศเป็นอย่างดีเพื่อแก้ไขผลเสียหายจากการแพร่ระบาดและฟื้นฟูพัฒนาเศรษฐกิจสังคม รัฐบาลจะปรับนโยบายงบประมาณประจำปี การเงินและนโยบายต่างๆอย่างคล่องตัวเพื่อธำรงความมีเสถียรภาพในระดับมหภาค ค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆและผลักดันการผลิตประกอบธุรกิจ เน้นให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการปฏิบัติกลไกและนโยบายช่วยเหลือประชาชนและสถานประกอบการอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง (VGP)

สำหรับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในปี 2022 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ให้ข้อสังเกตว่า ยังคงมีอุปสรรคและความท้าทายต่างๆ ดังนั้นเป้าหมายคือ “ปรับตัวอย่างปลอดภัย คล่องตัวและควบคุมการแพร่ระบาดเป็นอย่างดี ปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชนควบคู่กับการใช้โอกาสเพื่อผลักดันการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมผ่านมาตรการแก้ไขโดยรวมเพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ สนับสนุนและแก้ไขอุปสรรคให้แก่สถานประกอบการและประชาชน ไม่ปล่อยให้พลังขับเคลื่อนต่างๆลดลงในระยะยาว ธำรงความมีเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ค้ำประกันความสมดุลใหญ่ๆ เพิ่มการพึ่งพาตนเอง แข็งแกร่งและการปรับตัวของระบบเศรษฐกิจ ผลักดันการสร้างสรรค์ระบบโครงสร้างพื้นฐานให้พร้อมเพรียง ทันสมัย โดยเฉพาะโครงการสำคัญของประเทศ ลงทุนยกระดับคุณภาพของแหล่งบุคลากรควบคู่กับการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม”

นายกรัฐมนตรีเสนอเป้าหมายหลัก 16 เป้าหมายของปี 2022 ซึ่งอัตราการขยายตัวของจีดีพีจะอยู่ที่ร้อยละ 6-6.5 อัตราการเพิ่มดัชนีราคาผู้บริโภคหรือซีพีไอเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 4 แต่เพื่อปฏิบัติ 16 เป้าหมายดังกล่าว จำเป็นต้องปฏิบัติ 12 เป้าหมายและมาตรการหลัก โดยอันดับแรกคือปฏิบัติเป้าหมายการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดควบคู่กับการฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคมอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการจัดทำและปรับปรุงกลไกระเบียบการให้มีความสมบูรณ์ เน้นแก้ไขอุปสรรค ปฏิรูประเบียบราชการและปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจ เวียดนามปฏิบัติการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการเปลี่ยนแปลงใหม่รูปแบบการขยายตัว เพิ่มผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน เป็นต้น นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยต่อไปว่า “เวียดนามจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อปกป้องเอกราชและอธิปไตยของประเทศให้มั่นคง รักษาบรรยากาศสันติภาพและเสถียรภาพเพื่อการพัฒนาประเทศ ปฏิบัติกิจกรรมการต่างประเทศอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ ผสมผสานเข้ากับกระแสโลกอย่างเข้มแข็งและเป็นฝ่ายรุก มีส่วนร่วมเสริมสร้างสถานะและชื่อเสียงของเวียดนามบนเวทีโลก ปฏิบัติกิจกรรมการต่างประเทศ กระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีกับหุ้นส่วนต่างๆให้เข้าสู่ส่วนลึก เพิ่มความไว้วางใจทางการเมือง รวมถึงความสัมพันธ์กับบรรดาประเทศมหาอำนาจเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน ผลักดันการทูตระดับสูง ใช้ประโยชน์จากกลไกความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ หุ้นส่วนในทุกด้านและข้อตกลงการค้าเสรีฉบับต่างๆอย่างเต็มที่ ปฏิบัติงานด้านการสื่อสารต่างประเทศ การทูตวัฒนธรรม การดูแลเอาใจใส่ต่อชาวเวียดนามที่กำลังอาศัยในต่างประเทศและการคุ้มครองพลเมือง”

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยังแสดงความเชื่อมั่นว่า จากความเข้มแข็งของความสามัคคีชนในชาติและความไว้วางใจของประชาชนต่อการนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เวียดนามจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วเพื่อฟื้นฟูและพัฒนาเศรษฐกิจสังคม นำประเทศก้าวรุดหน้าต่อไปอย่างเข้มแข็งบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ ผสมผสานและพัฒนา./.