นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้งกล่าวปราศรัยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือ COP –26

หลังจากพิธีสารเกียวโตได้มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2005 เวียดนามได้ประกาศใช้นโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรน้ำ ความหลากหลายทางชีวภาพ การเกษตร ป่าไม้ การก่อสร้าง ระบบชลประทาน คมนาคม พลังงาน อุตสาหกรรม สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น โดยกฎหมายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมปี 2014  มี 1 บรรพที่กำหนดเกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การสอดแทรกการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในยุทธศาสตร์ การวางผังและแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม การบริหารจัดการด้านการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกและสารที่ทำลายชั้นโอโซน การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การผลิต การอุปโภคบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การแปลงขยะเป็นพลังงาน การพัฒนาและประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ความร่วมมือระหว่างประเทศในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

การค้ำประกันสิทธินุษยชนในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนามได้รับการปฏิบัติตามแนวทางสร้างสรรค์ระบบกฎหมายและนโยบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและสอดแทรกประเด็นนี้ในนโยบายและกฎหมายของหน่วยงานและด้านที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเนื้อหาการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้รับการจัดทำบนพื้นฐานของการแปรอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่เวียดนามเป็นภาคีเป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย รวมถึงกำหนดความรับผิดชอบในการปฏิบัติงานด้านการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในการผลิต การประกอบธุรกิจและการให้บริการขององค์กร บุคคลและหน่วยงานบริหารภาครัฐ การค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศควบคู่กับการค้ำประกันสิทธิการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดลอม ซึ่งเป็นสิทธิด้านการเมืองและพลเรือนและเป็นหนึ่งในสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ อีกทั้งเป็นกลไกที่สำคัญเพื่อขยายความรับผิดชอบในการจัดสรรค์ข้อมูลขององค์กรและบุคคลต่างๆ มีส่วนร่วมปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ที่ชอบธรรมของประชาชนในการปฏิบัตินโนบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

การค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนามได้รับการปฏิบัติควบคู่กับการวางผังและแผนงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่มีวิสัยทัศน์ระยะยาวแบบบูรณาการ มีการผสมผสานระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและเป็นพื้นฐานให้แก่การจัดทำและปรับปรุงแผนพัฒนาในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงมีการเชื่อมโยงกับการจัดทำยุทธศาสตร์ การวางผัง แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและโครงการลงทุน โดยในการวางผัง แผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคม โครงการลงทุน แผนพัฒนาหน่วยงานและด้านต่างๆ ต้องประเมินประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ตามข้อกำหนด

การค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในนโยบายและกฎหมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในเวียดนามยังผสมผสานกับการบริหารจัดการด้านการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก การแปลงขยะเป็นพลังงาน การผลิต การอุปโภคบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาและประยุก์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี โดยเวียดนามให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆต่อการวิจัย การถ่ายทอดและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นอกจากปรับปรุงนโยบาย ระบบกฎหมายและเป็นฝ่ายรุกในการวางแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศแล้ว เวียดนามยังให้ความร่วมมือและเข้าร่วมกลไกระหว่างประเทศเกี่ยวกับการค้ำประกันสิทธิมนุษยชนในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างเข้มแข็ง โดยตั้งแต่ปี 2014 มาจนถึงปัจจุบัน เวียดนามได้เข้าร่วมการจัดทำและยื่นเสนอร่างมติต่างๆเกี่ยวกับการค้ำประกันสิทธิของกลุ่มเสี่ยง เช่น สตรี เด็กและผู้สูงอายุให้สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติพิจารณาอนุมัติ อีกทั้งให้คำมั่นเกี่ยวกับการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างเข้มแข็งในการประชุม COP –26 ฟอรั่มความร่วมมือระหว่างปะเทศและการพบปะต่างๆ อันเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติคำมั่นระหว่างประเทศและความประสงค์ที่จะขยายความร่วมมือในด้านนี้ของเวียดนาม.