ประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก (vtc.vn)

สวิสเซอร์แลนด์เป็นจุดหมายแรกของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ในกรอบการปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ การเยือนครั้งนี้มีความหมายพิเศษในโอกาสครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างสองประเทศซึ่งตรงกับวันที่11 ตุลาคมและ 30 ปีความร่วมมือเพื่อการพัฒนา

50 ปีแห่งการทำนุบำรุงความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน

สวิสเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกแรก ๆ ที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนามในช่วงเวลาที่เวียดนามประสบความยากลำบากอย่างหนักเนื่องจากต้องทำสงครามเเพื่อรวมประเทศเป็นเอกภาพในภาคใต้ควบคู่กับการสร้างสรรค์สังคมนิยมในภาคเหนือ ในทางเป็นจริง ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้ก่อตัวขึ้นมาก่อนแล้ว และ ได้รับการทำนุบำรุงมาอย่างต่อเนื่องผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ ที่น่าสนใจคือการที่สวิสเซอร์แลนด์เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงเจนีวาแห่งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมปี 1954 ซึ่งรับรองความมีอิสระ อธิปไตย เอกภาพและบูรณภาพแห่งดินแดนของเวียดนาม

ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ทวิภาคีได้มีก้าวเดินที่น่ายินดีเป็นอย่างมากในทุกด้าน โดยในตอนแรก ความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศเน้นถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาเป็นหลัก ในช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา รัฐบาลสวิสเซอร์แลนด์ได้จัดสรรเงินกว่า 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของเวียดนาม โดยเมื่อเดือนมีนาคมปี 2021สวิสเซอร์แลนด์ได้ประกาศโครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนาสวิสเซอร์แลนด์ – เวียดนามในช่วงปี 2021-2024 ด้วยเงิน ODA มูลค่า70 ล้านฟรังก์สวิส ซึ่งเวียดนามยังคงเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่อยู่ในรายชื่อหุ้นส่วนที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับแรกด้านความร่วมมือ

ในหลายปีที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายได้จัดการเยี่ยมเยือนและแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูงกว่า 30 ครั้ง ล่าสุดคือการเยือนเวียดนามของรองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีต่างประเทศสวิสเซอร์แลนด์ อิกนาซิโอ แคสซิส เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2021

เพื่อแบ่งเบาความยากลำบากและสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลเวียดนามในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 เมื่อเร็ว ๆ นี้ สวิสเซอร์แลนด์ได้สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมน้ำหนัก 13 ตันให้แก่เวียดนาม สถานประกอบการสวิสเซอร์แลนด์บางแห่งยังบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนกองทุนวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยสถานทูตเวียดนามในกรุงเบิร์นเป็นผู้เปิดการรณรงค์

ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ มูลค่าการนำเข้า-ส่งออกระหว่างเวียดนามกับสวิสเซอร์แลนด์ในปี 2020 และในช่วงปี 2016-2018 อยู่ต่ำกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทสวิสเซอร์แลนด์กว่า 100 แห่ง รวมถึงบริษัทชั้นนำของโลก เช่น Nestle, ABB, Novartis, Roche, Zuellig Pharma, Holcim, Schindler ได้ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจในเวียดนาม ด้วยยอดเงินลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำให้สวิสเซอร์แลนด์กลายเป็นนักลงทุนยุโรปรายใหญ่อันดับ 6 ในเวียดนาม ในการประเมินเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีเนื่องในโอกาสวันเวียดนามในสวิสเซอร์แลนด์เมื่อเดือนตุลาคมปี 2021 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ดั่งหว่างยาง ได้กล่าวว่า

“มิตรภาพที่ยาวนานและมีชีวิตชีวานั้นเป็นพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อให้รัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศเสริมสร้าง พัฒนาอย่างต่อเนื่องและบรรลุผลงานในเชิงบวกในหลายด้าน ในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนา สวิสเซอร์แลนด์ได้ธำรงความร่วมมือพัฒนาให้แก่เวียดนามในตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งโครงการระดับทวิภาคีและพหุภาคีได้มีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพต่อความสำเร็จในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และการปฏิบัติเป้าหมายสหัสวรรษ มุ่งสู่เป้าหมายพัฒนาอย่างยั่งยืนในเวียดนาม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ดั่งหว่างยาง (Baoquocte.vn)

ความสัมพันธ์ทวิภาคีจะขยายและเข้าสู่ส่วนลึกต่อไป

อาจกล่าวกล่าวได้ว่า ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเวียดนามและสวิสเซอร์แลนด์ในช่วงครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาคือความไว้วางใจและความเข้าใจกันในหลาย ๆ ด้าน การแบ่งปันคุณค่าของโลก โดยเฉพาะความผูกพันระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ

ด้วยลักษณะสนับสนุนกันของเศรษฐกิจทั้งสองประเทศและพลังขับเคลื่อนทางการเมืองที่เข้มแข็งในปัจจุบัน  ความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม-สวิสเซอร์แลนด์จะขยายและพัฒนาเข้าสู่ส่วนลึกต่อไป แปรศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนและการดูแลสุขภาพให้เป็นรูปธรรม และมุ่งสู่การลงนามข้อตกลงการค้าเสรีหรือFTA ระหว่างเวียดนามกับสมาคมการค้าเสรียุโรปหรือEFTA โดยเร็วซึ่งสวิสเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งจะสร้างแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่สำหรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าทวิภาคี เนื่องในโอกาสวันเวียดนามในสวิสเซอร์แลนด์  เอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ประจำเวียดนาม Ivo Sieber แสดงความเชื่อมั่นว่า

“ผมเชื่อมั่นต่ออนาคตของสองประเทศจากการมีพื้นฐานความสัมพันธ์ที่มั่นคง เรามีความร่วมมืออย่างกว้างขวางในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการวิจัย ซึ่งเป็นด้านที่เรายังคงผลักดันความร่วมมืออย่างต่อเนื่อง  ทั้งสองประเทศกำลังเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี และเราเชื่อว่า กระบวนการเจรจาจะสามารถเสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อเปิดโอกาสทางการค้ามากขึ้นและสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้น หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 เราจะพัฒนาการท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนระหว่างนักธุรกิจ นักการเมืองและนักวิจัยมากขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสเพื่อผลักดันความร่วมมือในอนาคต”

ผลสำเร็จที่เวียดนามและสวิสเซอร์แลนด์ได้บรรลุในครึ่งศตวรรษที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความสัมพันธ์ร่วมมือเวียดนาม - สวิสเซอร์แลนด์ การเยือนสวิสเซอร์แลนด์อย่างเป็นทางการของประธานประเทศ เหงียนซวนฟุก ในครั้งนี้จะช่วยกระชับมิตรภาพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ยืนยันถึงคำมั่นร่วมมือเพื่อสร้างพื้นฐานเพื่อขยายและผลักดันความสัมพันธ์ทวิภาคีในอนาคตต่อไป.