๑๐๐วันในตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสของนาย ฟรองซัว อองลองค์

(VOVworld) –   วันที่๑๕สิงหาคมได้ครบรอบ๑๐๐วันที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัว อองลองค์บริหารประเทศซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของพรรคสังคมหลังจากที่พรรคฝ่ายขวากุมอำนาจบริหารประเทศอย่างยาวนานถึง๑๗ปี แต่ภายหลังการสาบานตนรับตำแหน่ง  ประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ก็ต้องเผชิญการท้าทายไม่น้อยจากวิกฤติเศรษฐกิจภายในประเทศและความคาดหวังจากประชาชน

(VOVworld) –   วันที่๑๕สิงหาคมได้ครบรอบ๑๐๐วันที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัว อองลองค์บริหารประเทศซึ่งเป็นประธานาธิบดีคนแรกของพรรคสังคมหลังจากที่พรรคฝ่ายขวากุมอำนาจบริหารประเทศอย่างยาวนานถึง๑๗ปี แต่ภายหลังการสาบานตนรับตำแหน่ง  ประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ก็ต้องเผชิญการท้าทายไม่น้อยจากวิกฤติเศรษฐกิจภายในประเทศและความคาดหวังจากประชาชน

๑๐๐วันในตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสของนาย ฟรองซัว อองลองค์ - ảnh 1
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัว อองลองค์(Photo:VOV)

(VOVworld) –   ใน๓เดือนผ่านมา ประธานาธิบดี ฟรองซัว อองลองค์และรัฐบาลชุดใหม่ได้ปฏิบัตินโยบายต่างๆที่ได้ประกาศไว้ในการหาเสียงเลือกตั้งทันทีโดยเมื่อเดือนพฤษภาคมภายหลัง๒สัปดาห์ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี  นายฟรองซัว อองลองค์ได้ทำการลดเงินเดือนรัฐมนตรีทั้งคณะลงร้อยละ๓๐ ลงนามในเอกสารเกี่ยวกับกฏระเบียบการดำเนินงานและภาระหน้าที่ของรัฐบาล ประกาศถอนทหารฝรั่งเศสออกจากอาฟกานิสถาน  รับสมัครครูประถมศึกษาอีก๑พันคน ยกเลิกกฏระเบียบที่เข้มงวดที่มีต่อนักศึกษต่างชาติ  ถึงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หลังจากที่ฝ่ายซ้ายได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรัฐสภา รัฐบาลของประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ก็ได้ฐานเสียงที่มั่นคงและปฏิบัตินโยบายใหม่ที่น่าสนใจคือ เพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำ ขยายอายุเกษียณราชการที่๖๐ปีในบางสาขาอาชีพ กำหนดเพดานเงินเดือนของเจ้าของสถานประกอบการภาครัฐที่๔แสน๕หมื่นยูโรต่อปี เพิ่มเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวที่มีบุตรหลานกำลังเล่าเรียน บรรลุข้อตกลงร่วมยุโรปเกี่ยวกับการให้ความสนใจต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจัดหางาน ส่วนเมื่อวันที่๑สิงหาคมที่ผ่านมา รัฐบาลของประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์ได้มีการตัดสินใจที่สำคัญถือเป็นสิ่งที่ประชาชนชาวฝรั่งเศสรอยคอยนั่นคือการปรับลบเงินเดือนของประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีลงร้อยละ๓๐            
ความพยายามของประธานาธิบดีฟรองซัว อองลองค์และรัฐบาลชุดใหม่ได้รับการชื่นชมจากประชาชน โดยเฉพาะ นายฟรองซัว อองลองค์ได้แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ของประธานาธิบดีที่ใกล้ชิดกับประชาชน มีความถ่อมตัว และความเรียบง่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันซึ่งสวนทางกับภาพลักษณ์ของอดีตประธานาธิบดีซาโกซี แต่ถึงกระนั้นก็มีหลายสิ่งหลายอย่างก็ยังไม่สามารถปฏิบัติได้ทันทีจนสร้างความไม่พอใจส่วนหนึ่งในประชามติฝรั่งเศสคือ การเลิกจ้างแรงงานของเครือบริษัทใหญ่ๆของฝรั่งเศส เช่น เครือบริษัทPeugeot Citroenได้ประกาศเลิกจ้างแรงงานถึง๘พันคนและรัฐบาลชุดใหม่ถูกตำหนิติติงว่า มีความล่าช้าและเป็นฝ่ายรับในการยื่นมือเข้ามาแทรกแซงแผนการเลิกจ้างดังกล่าว ตลอดจนคำสัญญาต่างๆที่ให้ไว้ เช่น ยับยั้งการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและเก็บภาษีต่อผู้ที่มีรายได้สูงก็ยังไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ ความไม่สงบที่ทวิความรุนแรงในพื้นที่บางแห่งก็ทำให้รัฐบาลชุดใหม่ได้รับการตำหนิติติงจากประชามติเช่นกัน             สถานการณ์เศรษฐกิจซบเซาได้ทำให้ชาวฝรั่งเศสจำนวนมากรู้สึกเบื่อหน่าย ยิ่งไปกว่านั้น จากแนวทางเป็นประธานาธิบดีที่ติดดินและยืนข้างประชาชนมากกว่านายจ้างจนนำไปสู่การออกนโยบายตัดลดเงินเดือน การกำหนดเพดานเงินเดือนต่อเจ้าของสถานประกอบการและแนวทางเก็บภาษีต่อผู้ที่มีรายได้สูงก็ทำให้รัฐบาลชุดใหม่มีศัตรูเพิ่มมากขึ้น        
อย่างไรก็ดี ประชามติเห็นว่า นี่เพียงเป็นการเริ่มต้น เส้นทางประธานาธิบดีของนายฟรองซัว อองลองค์ที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความยากลำบาก ในนโยบายที่เป็นรูปธรรม งานที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องทำมีมากซึ่งก่อนอื่นคือ ภายในเวลา๓เดือน ต้องยับยั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น เก็บภาษีร้อยละ๗๕ต่อผู้ที่มีรายได้กว่า๑ล้านยูโรต่อปีขึ้นไป แก้ปัญหางานทำ และสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้มีที่พักอาศัย และการปรับปรุงสถานการณ์ความมั่นคงให้ดีขึ้นก็เป็นหนึ่งในปัญหาที่รัฐบาลชุดใหม่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ส่วนกรณีฆาตกรรมต่างๆ โดยเฉพาะ กรณีสังหารตำรวจหญิง๒นายที่ Amiens เมื่อ๒ถึง ๓วันก่อน ก็ทำให้ฝ่ายขวาตำหนิติติงนโยบายความมั่นคงที่อ่อนด้อยของรัฐบาลชุดใหม่ แต่การท้าทายที่ใหญ่ที่สุดต่อนายฟรองซัว อองลองค์คือ ควบคู่กับการสร้างภาพลักษณ์ประธานาธิบดีที่ติดดิน เขาต้องแสดงให้เห็นถึงความสามารถของการเป็นผู้นำที่เข้มแข็ง ควบคู่กับการสร้างภาพลักษณ์ของตนเอง เขายังต้องเชิดชูภาพลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสเพื่อฟื้นฟูประเทศฝรั่งเศสให้กลับมาเข้มแข็งในสหภาพยุโรปและสามารถแข่งขันกับเยอรมนีที่กำลังได้รับการยกย่องว่า มีความมั่นคงท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจการเงิน          
เมื่อหวนมองดู๑๐๐วันที่นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีของนายฟรองซัว อองลองค์ที่ต้องเผชิญมรสุมไม่น้อยแต่ชาวฝรั่งเศสได้ชื่นชมงานที่เขาได้ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง หนทางข้างหน้าแม้จะะไม่ราบรื่น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจยุโรปที่กำลังซบเซา ซึ่งประเทศฝรั่งเศสจะต้องฟันฝ่าไปให้ได้นั้น แต่ประชามติมีความเชื่อมั่นว่า ฝรั่งเศสจะสามารถก้าวข้ามวิกฤติได้เพราะประธานาธิบดี ฟรองซัว อองลองค์ได้รับความไว้วางใจและความร่วมแรงร่วมใจจากประชาชนในประเทศ ./.

Thùy Vân ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำฝรั่งเศส

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด