ประเพณีการตำขนม แบ๊งไหญ่ของชาวม้งที่หมู่บ้านหน่าเต๊า
Thu Hoa/VOV5 -  
(VOVworld)-ตามความเชื่อของชนเผ่าม้งขนมแบ๊งไหญ่คือสัญลัษณ์แห่งพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในโลก ดังนั้นขนมแบ๊งไหญ่จึงเป็นหนึ่งในอาหารสำคัญที่ไม่อาจขาดได้ในงานต่างๆ
(VOVworld)-ตามความเชื่อของชนเผ่าม้งขนมแบ๊งไหญ่คือสัญลัษณ์แห่งพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในโลก ดังนั้นขนมแบ๊งไหญ่จึงเป็นหนึ่งในอาหารสำคัญที่ไม่อาจขาดได้ในงานต่างๆ
นาย อย่างอาเจอะที่ต.หน่าเต๋าอ.เดียนเบียนจ.เดียนเบียนได้เล่าเรื่องของหมู่บ้านด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมด้วยความสุขและความภาคภูมิใจว่า หนุ่มสาวของหน่าเต๋า8คนสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดตำขนมแบ๊งไหญ่ในงานมหกรรมวัฒนธรรมชนเผ่าต่างๆในจังหวัดเดียนเบียนเมื่อเร็วๆนี้แต่นี่มิใช่ครั้งแรกที่ทีมแบ๊งไหญ่ของหน่าเต๋าได้รางวัลชนะเลิศเพราะหนุ่มสาวของหน่าเต๋าได้เข้าร่วมการประกวดเช่นนี้หลายครั้งและก็สามารถคว้ารางวัลสูงหลายรางวัล“พวกเรารู้จักกันดีว่าการทำขนมแบ๊งไหญ่คือประเพณีที่สืบทอดกันมานานของชาวม้งมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเมื่อถึงวันฉลองปีใหม่ทุกบ้านจะเตรียมข้าวทำขนมก่อน2-3วัน ซึ่งทุกคนทั้งแต่ผู้สูงอายุไปจนถึงเด็กๆต่างก็ชอบอาหารชนิดนี้แถมยังเก็บได้นานเป็นเดือนด้วย เมื่อแป้งขนมแข็งตัวก็อาจนำไปทอดกรอบก็อร่อยดี”
ในหมู่บ้านของชาวม้ง ขนมแบ๊งไหญ่ที่ทำจากข้าวเหนียวตำอย่างละเอียดและนิ่มเหนียวที่ปั้นเป็นรูปกลมและวางบนใบตองถือเป็นอาหารประจำวัน ซึ่งนายเจอะเผยว่าการทำขนนมแบ๊งไหญ่เริ่มจากประเพณีการบุชาบรรพบุรุษซึ่งเป็นอาหารที่จำเป็นในเครื่องเซ่นไหว้ เมื่อถึงเวลาส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คนทั้งหมู่บ้านจะร่วมกันทำขนมนี้โดยจะนำข้าวสารเหนียวไปแช่-นึ่ง-ตำ แล้วปั้นเป็นขนมรูปกลม ซึ่งทุกขั้นตอนจะต้องใช้เวลาเป็นวัน นางหย่างทิเคีย สมาชิกทีมแบ๊งไหญ่ของหน่าเต๋าเผยว่า“เพื่อให้ขนมแบ๊งไหญ่หอมและอร่อยก่อนอื่นต้องเลือกข้าวสารให้ดี แช่ไว้1วัน หลังจากนั้นจะนำไปนึ่งประมาณ1-2ชั่วโมง เพื่อให้สุกนิ่ม ก่อนตำข้าวเหนียวก็ให้คั่วงาตำก่อน นอกจากนั้นจะเอาไข่แดงที่สุกแล้วบดละเอียดเพื่อใช้ในระหว่างการปั้นขนมไม่ให้ติดมือ ต้องตำข้าวเหนียวตอนร้อนๆจะได้ขนมที่เนียนนิ่มและเหนียวไม่แข็งแห้งหรือมีรอยแตกไม่สวยไม่อร่อย”
|
ประเพณีการทำขนมแบ๊งไหญ่เดี๋ยวนี้มิใช่เป็นที่รู้จักเฉพาะในชุมชนชาวม้งเท่านั้นหากทีมแบ๊งไหญ่ของหน่าเต๋าหลายทีมได้รับเชิญไปแสดงหรือเข้าร่วมการแข่งขันที่งานมหกรรมวัฒนธรรมชนเผ่าต่างๆของท้องถิ่น แต่ละทีมจะมี2คู่ชายหญิง ผู้ชายต้องแข็งแรงเพื่อรับหน้าที่เป็นคนตำขนม ส่วนผู้หญิงต้องมีฝีมือในการปั้นและจัดขนมให้ดูสวยงามน่ารับประทาน นายหว่างอาทั้ง สมาชิกทีมขนมแบ๊งไหญ่หน่าเต๋าเผยว่า“การตำขนมจะต้องตำให้สม่ำเสมอเป็นเวลาประมาณ10-15นาที โดยใช้สากกะเบือหนักประมาณ30-40กิโลกรัมถึงจะได้ แม้จะเหนื่อยแต่ก็รู้สึกมีความสุขมากเมื่อได้ร่วมงานวัฒนธรรมต่างๆและได้รางวัลสูง อยู่ที่บ้านเราก็รับหน้าที่เป็นคนตำขนมเช่นกันโดยเฉพาะเมื่อถึงปีใหม่ก็ยิ่งยุ่งกับการทำขนมนี้”
ปัจจุบัน ถึงแม้สังคมจะมีการพัฒนาแต่ประเพณีต่างๆของชนเผ่าม้งรวมทั้งการทำขนมแบ๊งไหญ่ยังคงได้รับการสืบสานต่อไป ซึ่งตราบใดที่ขนมแบ๊งไหญ่ยังเป็นเครื่องเซ่นไหว้สำคัญ หนุ่มสาวชาวม้งที่หมู่บ้านหน่าเต๋าก็จะร่วมกันตำแบ๊งไหญ่ต่อไป./.
Thu Hoa/VOV5