พิธีแต่งงานของชนเผ่าเมอนง

(VOVworld)-ชนเผ่าเมอนงมีคลังวัฒนธรรมที่หลากหลายน่าสนใจโดยเฉพาะพิธีแต่งงานนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์เฉพาะของชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในเขตที่ราบสูงเตยเงวียนอย่างเด่นชัดที่สุด



(VOVworld)-ชนเผ่าเมอนงมีคลังวัฒนธรรมที่หลากหลายน่าสนใจโดยเฉพาะพิธีแต่งงานนั้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สะท้อนให้เห็นเอกลักษณ์เฉพาะของชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในเขตที่ราบสูงเตยเงวียนอย่างเด่นชัดที่สุด

พิธีแต่งงานของชนเผ่าเมอนง - ảnh 1
สิ่งของที่ต้องนำไปพร้อมกับตัวแทนของฝ่ายชายหรือพ่อสื่อแม่สื่อนั้นจะต้องมีกระโด้ง1อัน ข้าวสาร1ถ้วย ไก่1ตัว สร้อยคอและกระโปรง1ชุด 

ในช่วงที่จะมีการจัดงานเทศกาลต่างๆเช่นงานขอฝนขอพรให้ชีวิตมีความสงบสุขนั้นถือเป็นโอกาสเพื่อให้หนุ่มสาวชาวเมอนงได้มาสังสรรค์กันเพื่อหาคู่ โดยหลังจากที่สามารถเลือกคนที่ชอบใจได้แล้ว ฝ่ายชายจะกลับมาบอกพ่อแม่เพื่อส่งคนในครอบครัวไปเป็นพ่อสื่อแม่สื่อขอลูกสาวบ้านเขามาเป็นสะไภ้  แต่โดยที่ชนเผ่าเมอนงเป็นหนึ่งใน5ชนเผ่าของเวียดนามที่มีประเพณีวัฒนธรรมที่ให้ความสำคัญกับบทบาทของผู้หญิงในครอบครัวดังนั้นสตรีชนเผ่าเมอนงยังคงเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับใคร นางเหงวียนทิหงอก ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์จังหวัดดั๊กลักเผยว่า ตามความเลื่อมใสของชาวเมอนงถ้าบ้านไหนหาได้ลูกเขยที่ดีก็ถือว่าเป็นการนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้แก่ทั้งครอบครัว“ตามประเพณี ผู้ชายเมื่อแต่งงานแล้วจะมาอยู่ที่บ้านผู้หญิงดังนั้นฝ่ายชายมีสิทธิ์เสนอเรื่องสินสอดซึ่งอาจจะเป็นวัวควายหรือสิ่งของที่จำเป็นต่างๆให้ฝ่ายหญิงเตรียมพร้อมไว้

พิธีแต่งงานของชนเผ่าเมอนง - ảnh 2
งานเทศกาลต่างๆถือเป็นโอกาสเพื่อให้หนุ่มสาวชาวเมอนงได้มาสังสรรค์กันเพื่อหาคู่

สำหรับพิธีกรรมต่างๆในงานแต่งงานของชาวเมอนงก็มีความคล้ายคลึงกับวัฒนธรรมการแต่งงานของชาวกิงโดยจะเริ่มด้วยพิธีจ๋ามหงอหรือพิธีสู่ขอซึ่งมักจะจัดขึ้นตอนสองสามทุ่มเผื่อกรณีฝ่ายชายถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธก็จะได้ไม่อับอายชาวบ้าน ซึ่งสิ่งของที่ต้องนำไปพร้อมกับตัวแทนของฝ่ายชายหรือพ่อสื่อแม่สื่อนั้นจะต้องมีกระโด้ง1อัน ข้าวสาร1ถ้วย ไก่1ตัว สร้อยคอและกระโปรง1ชุด ก่อนรับสิ่งของจากฝ่ายชาย พ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะถามลูกสาวของตัวเองว่าจะยอมตกลงหรือไม่ หากลูกสาวไม่ปฏิเสธก็จะรับสิ่งของไว้แต่ที่สำคัญคือทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมกันดูว่ามีความสัมพันธ์ทางด้านเครือญาติกันหรือเปล่า ถ้าไม่มีถึงจะแต่งงานกันได้

ต่อจากนั้นหนึ่งปีเมื่อถึงวันเวลาที่กำหนดงานหมั้น ฝ่ายชายจะส่งผู้เฒ่าที่มีบทบาทสำคัญในครอบครัวพร้อมชายหนุ่มนำขบวนขันหมากไปที่บ้านฝ่ายหญิงโดยจะมีกระบอกไม้ใผ่ใส่หน่อไม้ดอง สร้อยคอกับกำไลทองแดง ซึ่งพ่อสื่อแม่สื่อจะเป็นผู้ใส่สร้อยคอให้ฝ่ายหญิงและใส่กำไลข้อมือให้ฝ่ายชายเพื่อเป็นการยอมรับการเป็นสามีภรรยากัน หลังจากนั้นฝ่ายหญิงจะจัดพิธีเส้นไหว้เพื่อรายงานต่อบรรพบุรุษว่าลูกสาวในบ้านมีคู่ครองแล้วและบ้านจะมีสมาชิกใหม่ และจะมีการดื่มเหล้าอุกันและคุยเรื่องการจัดงานแต่งงานที่จะมีขึ้นในอีก1สัปดาห์หลังงานหมั้น 

สำหรับสิ่งของที่ฝ่ายหญิงต้องเตรียมเพื่อใช้ในงานแต่งงานประกอบด้วย ข้าวสาร100กระพา เหล้า100ไห วัวหนึ่งตัว ถ้วยและแก้วอย่างละ50ใบและสร้อยคออีก50เส้นเพื่อเป็นของขวัญให้แก่พ่อแม่และญาติพี่น้องของฝ่ายชาย นาย อามาฟฟอง ชาวเผ่าเมอนง เผยว่า“เมื่อก่อนนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับงานแต่งานใช้ไม่มาก แต่ต้องจัดนานหลายวันโดยครอบครัวที่มีคนแต่งงานจะฆ่าวัว หมู ไก่เพื่อเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านจะมาร่วมแสดงความยินดีและร่วมร้องรำทำเพลงสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานเป็นเวลา2-3วัน

พิธีแต่งงานของชนเผ่าเมอนง - ảnh 3
พ่อสื่อแม่สื่อจะเป็นผู้ใส่สร้อยคอให้ฝ่ายหญิงและใส่กำไลข้อมือให้ฝ่ายชายเพื่อเป็นการยอมรับการเป็นสามีภรรยากัน

พิธีแต่งงานจะเริ่มด้วยการมอบข้าวสารคนละถ้วยโดยฝ่ายหญิงเป็นผู้มอบเพื่อเป็นการแสดงความปรารถนาว่าชีวิตคู่จะมีความอิ่มหนำผาสุกและจำนวนถ้วยข้าวสารนั้นจะเท่ากับจำนวนไหเหล้าที่ฝ่ายชายมอบให้ฝ่ายหญิง ในพิธีผู้ที่รับหน้าที่เป็นพ่อสื่อจะพาคู่บ่าวสาวไปที่เสาเอกของบ้าน จะมีผู้ที่เป็นตัวแทนของสองฝ่ายถือผ้าที่ถูกผูกกับเสา คู่บ่าวสาวจะจับผ้านั้นเพื่อสื่อถึงความหมายว่าทั้งสองคนจะรักกันไปตลอดกาล ต่อจากนั้นจะมีการสั่งสอนให้ทั้งสองคนรับรู้วิธีการใช้ชีวิตคู่และความรับผิดชอบต่อพ่อแม่และครอบครัวของทั้งสองฝ่ายและจะเสร็จสิ้นพิธีด้วยการดื่มเหล้าอุ

คนที่มาแสดงความยินดีและอวยพรคู่บ่าวสาวก็จะนำเหล้านำอาหารมาร่วมด้วยและพิธีส่งเจ้าบ่าวจะมีขึ้นในวันถัดไป หลังงานแต่งงานทั้งคู่จะต้องอยู่แต่ในบ้านห้ามออกไปข้างนอกเป็นเวลา7วัน เมื่อครบกำหนดก็จะกลับไปอยู่ที่บ้านฝ่ายชาย7วัน หลังจากนั้นก็ไปอยู่ที่บ้านฝ่ายหญิงตลอดชีวิต./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด