สัปดาห์ลำใยและผลิตภัณฑ์การเกษตรสะอาดของจังหวัดเซินลาปี2018

 จุดเด่นในการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการผลิตการเกษตรของจังหวัดเซินลาคือสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา เช่น แนวทางการปลูกไม้ผลบนที่ดินลาดชัน นโยบายส่งเสริมการพัฒนาสหกรณ์และการดึงดูดสถานประกอบการเข้ามาลงทุนในด้านการเกษตร ซึ่งกุญแจแห่งความสำเร็จในการผลิตการเกษตรคือการสร้างสรรค์และดำเนินห่วงโซ่คุณค่าการผลิต การแปรรูป การจำหน่ายและการผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรสะอาดและปลอดสารพิษ ทางการจังหวัดฯได้วางผังการผลิตตามแนวทางพัฒนาพันธุ์พืชที่เป็นจุดแข็ง มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงและผลักดันการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหาร  ภายหลังเวลาสั้นๆ  พื้นที่ปลูกไม้ผลในจังหวัดเซินลาได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่กว่า5หมื่นเฮกตาร์ โดยให้ปริมาณผลผลิต250,000ตัน  นาย หล่อมิงหุ่ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเซินลาได้เผยว่า “ตามแนวทางตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี2020 จังหวัดเซินลาจะพัฒนาพื้นที่ปลูกไม้ผล1แสนเฮกตาร์  ควบคู่กันนั้น  ทางการจังหวัดฯยังให้ความสนใจต่อการพัฒนาการปลูกไม้ผลอย่างยั่งยืนผ่านการเพิ่มความหลากหลายของพันธุ์ไม้ผล โดยเฉพาะ พันธุ์พืชที่เป็นจุดแข็งของจังหวัดฯ ให้ความสนใจต่อกระบวนการผลิตเพื่อค้ำประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์การเกษตร ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคภายในประเทศและตลาดต่างประเทศที่มีมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น สหรัฐและออสเตรเลีย”

สำหรับไม้ผล ทางการจังหวัดฯได้กำหนดว่า การพัฒนาการปลูกไม้ผลหลักผสานกับการผลิตของแต่ละท้องถิ่น เช่น ลำใย เสาวรส  มะม่วงและกล้วย เป็นต้น  เพื่อแก้ไขปัญหาการผลิตแบบกระจัดกระจาย  จังหวัดเซินลาได้ผลักดันการพัฒนาสหกรณ์และสหภาพสหกรณ์ในด้านการเกษตร จากแนวทางพัฒนาการปลูกไม้ผลผสานกับการพัฒนาสหกรณ์ จนถึงขณะนี้ จังหวัดเซินลาได้มีสหกรณ์นับสิบแห่งที่ปลูกผลไม้  มีพื้นที่การปลูกลำใย 12,000เฮกตาร์ พื้นที่ปลูกมะม่วงอยู่ที่เกือบ9,000เฮกตาร์และพื้นที่ปลูกเสาวรส12,000 เฮกตาร์และพื้นที่ปลูกกล้วยอยู่ที่กว่า3,000เฮกตาร์ โดยส่วนใหญ่ปลูกในอำเภอเอียนโจว์ เหมื่องลา ถวนโจว์ เอียนโจว์ มายเซินและเมืองเซินลา เป็นต้น

จากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพของที่นับวันสูงขึ้น การผลิตเกษตรจึงมีมาตรฐานที่สูงขึ้น  ทางการท้องถิ่นและสหกรณ์ต่างๆได้ประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการผลิตตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์พืชจนถึงขั้นตอนต่างๆเช่น การเลือกพันธุ์  การดูแลและการเก็บเกี่ยว  โดยเฉพาะ การเปลี่ยนแปลงจิตสำนึกของประชาชนในการปลูกตามมาตรฐานเวียดแก๊ปเพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์และตอบสนองความต้องการของตลาด  ปัจจุบัน จังหวัดเซินลามีพื้นที่ปลูกมะม่วงและลำใยที่ได้มาตรฐานเพื่อการส่งออก ในอำเภอซงหมา มายเซินและเอียนโจว์ นอกจากนี้ พื้นที่ปลูกเสาวรสเกือบ10เฮกตาร์ในอำเภอโหมกโจว์ได้รับการปลูกตามมาตรฐานเวียดแก๊ปเพื่อตอบสนองมาตรฐานของยุโรป

ลำใยซงหมามีคุณภาพดี เนื้อเยอะและเม็ดเล็ก

จากการกำหนดให้การส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรเป็นหน้าที่หลักในการบริหาร พรรคสาขาและทางการจังหวัดเซินลาได้จัดตั้งคณะกรรมการชี้นำการแปรรูปและจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร จัดกิจกรรมต่างๆเพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์การเกษตรของจังหวัดเซินลา  จนถึงขณะนี้ บรรดาสถานประกอบการขนาดใหญ่ เช่น บริษัทหุ้นส่วนจำกัด Vina T&Tและบริษัทหุ้นส่วนส่งออกอาหารด่งยาวกำลังให้ความช่วยเหลือจังหวัดเซินลาในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์การเกษตรในตลาดต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย สหรัฐ อียูและจีน นาย เหงวียนดิ่งตุ่ง ผู้อำนวยการบริษัทหุ้นส่วนจำกัด Vina T&T นครโฮจิมินห์ได้เผยว่า “ลำใยของจังหวัดเซินลา โดยเฉพาะ ลำใยซงหมามีคุณภาพดี เนื้อเยอะ เม็ดเล็ก เก็บรักษาง่าย เมื่อเดือนกรกฎาคมปี2017 พวกเราได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเห็นว่า มีศักยภาพมาก พวกเราได้ส่งออกลำใยนับร้อยกิโลกรัมไปยังตลาดสหรัฐ ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก”

ด้วยเป้าหมายผลักดันการส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตรที่มีคุณภาพสูง ในปี2018 จังหวัดเซินลาได้ส่งออกผลิตภัณฑ์การเกษตร12ชนิด เช่น มะม่วง ลำใย  เสาวรส กาแฟ ชา น้ำผึ้งและผัก เป็นต้น  ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเกษตรที่เหมาะกับเงื่อนไขการผลิต สภาพที่ดินและสภาพอากาศของจังหวัดฯ  นาย เลกวางจุง รองผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์จังหวัดเซินลาได้เผยว่า “การส่งออกผลิตภัณท์การเกษตรช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้แก่จังหวัดฯ ซึ่งช่วยกำหนดแนวทางพัฒนาไม้ผลตามมติของสภาประชาชนและคณะกรรมการประชาชน เกษตรกร ผู้ประกอบการและสหกรณ์ก็ปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกและการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ เช่น ลำใยและมะม่วงเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ”

เพื่อเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์การเกษตร จังหวัดเซินลาได้เป็นฝ่ายรุกในการเชิญชวนสถานประกอบการเข้ามาลงทุนในด้านการเกษตรและประสบผลสำเร็จในเบื้องต้น บรรดาผู้ประกอบการส่งเสริมการเชื่อมโยงกับสหกรณ์และครอบครัวเกษตรกรในการจัดตั้งห่วงโซ่การผลิตและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อย่างยั่งยืน ผู้บริหารจังหวัดฯได้เป็นฝ่ายรุกในการเชิญชวนเครือบริษัทใหญ่ๆเข้ามาลงทุนในด้านการเกษตร เชื่อมโยงเพื่อการลงทุนในด้านการผลิต การแปรรูปและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์การเกษตร ผักและผลไม้ที่สะอาดกับระบบการจำหน่ายในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ.