บทเพลงแห่งความสามัคคีที่ก้องกังวาล

(VOVWORLD) -งานนิทรรศการภายใต้หัวข้อ “บ่ายกาเก๊ดดว่านหรือบทเพลงแห่งความสามัคคี”กำลังถูกจัดขึ้น ณ โบราณสถานเรือนจำหวาหล่อ กรุงฮานอย โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและตระกูลที่จงรักภักดีต่อพรรคและการปฏิวัติ  ซึ่งภาพถ่ายต่างๆที่ถูกจัดแสดงในงานนิทรรศการนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของประชาชนเวียดนามและเป็นการยืนยันว่า “ความสามัคคีเป็นแหล่งพลัง เป็นปัจจัยที่สำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ”

 
 
บทเพลงแห่งความสามัคคีที่ก้องกังวาล - ảnh 1ภาพถ่ายเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์กำลังยืนนำการแสดงบทเพลงแห่งความสามัคคี (Photo:baovanhoa.vn)

ภาพถ่ายเกี่ยวกับประธานโฮจิมินห์กำลังยืนนำการแสดงบทเพลงแห่งความสามัคคีในรายการแสดงศิลปะเพื่อขานรับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคครั้งที่ 3 เมื่อปี 1960 ของช่างภาพ เลิมห่งลองเป็นหนึ่งในภาพถ่ายและเอกสารที่มีค่านับร้อยชุดที่ถูกแสดงในงานนิทรรศการนี้ นาย ด่าวดว่านเท้หุ่ง ผู้ที่เคยเข้าร่วมงานแสดงศิลปะครั้งนั้นได้เผยว่า   ภายใต้การนำเพลงของประธานโฮจิมินห์ บทเพลงแห่งความสามัคคีได้ดังขึ้น

ประธานโฮจิมินห์ได้ถามคณะนักร้องประสานเสียงที่ร้องเพลงเพื่อขานรับการประชุมใหญ่พรรคว่า   ลุงจะนำการร้องเพลงแห่งความสามัคคีนะครับ พวกเธอร้องตามได้ไหม” ซึ่งทุกคนก็ตอบกลับมาว่า  “ได้”

งานนิทรรศการครั้งนี้แบ่งเป็น 2 หัวข้อได้แก่นิมิตหมายในเขตชนบทและภายใต้การนำของพรรค ซึ่งหัวข้อ “นิมิตหมายในเขตชนบท”เป็นเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับครอบครัวและตระกูลที่ได้มีส่วนร่วมต่อภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติ  ทหารหลายนายมาจากเขตชนบทที่ยากจนได้พร้อมเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อต่อสู้ช่วงชิงเอกราชและเสรีภาพให้แก่ประชาชาติ นาย เจิ่นเคิม รองหัวหน้าคณะกรรมการนักรบปฏิวัติที่ถูกศัตรูจับกุมคุมขังกรุงฮานอยได้เผยว่า

“ผมรู้สึกซาบซึ้งใจเมื่อเห็นภาพถ่ายเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสการปฏิวัติที่ถูกศัตรูจับกุมคุมขังและทรมานในเรือนจำหวาหล่อ ซึ่งประเทศเราพัฒนาเหมือนในปัจจุบัน มีส่วนร่วมและความเสียสละของคนรุ่นก่อน โดยเฉพาะ อดีตนักโทษการเมือง”

เมื่อเข้าร่วมงานนิทรรศการ ผู้ชมสามารถรับชมภาพถ่ายในตำบลดงหมี อำเภอแทงจี กรุงฮานอย สถานที่ก่อตั้งพรรคสาขาดงฝู่ ซึ่งเป็นพรรคสาขาแรกในเขตชานเมืองกรุงฮานอย การก่อตั้งพรรคสาขาดงฝู่เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมปี 1930 ได้ช่วยส่งเสริมการปฏิวัติ นอกจากนี้ ภาพถ่ายเกี่ยวกับเขตชนบทต่างๆ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักยุทธศาสตร์ที่ปรีชาสามารถต่างๆ เช่น ตำบลเหงียจุ อำเภอวันยาง จังหวัดฮึงเอียน ตำบลนามเวิน เมืองนามดิ่ง จังหวัดนามดิ่ง เป็นต้นก็สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากให้แก่บรรดาผู้ชม โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่ คุณ มิงห่ง นักศึกษาในกรุงฮานอยเห็นว่า

“ผ่านงานนิทรรศการนี้ เราได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของประเทศและสำนึกในบุญคุณของทหารที่สละชีพเพื่อช่วงชิงเอกราชให้แก่ประชาชาติ”

บทเพลงแห่งความสามัคคีที่ก้องกังวาล - ảnh 2งานนิทรรศการนี้ดึงดูดผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก (Photo:baovanhoa.vn)

อาจกล่าวได้ว่า งานนิทรรศการครั้งนี้ได้ส่งเสริมความภาคภูมิใจให้แก่ผู้ชมและส่งเสริมความเข้าใจเกี่ยวกับความเสียสละและส่วนร่วมของคนรุ่นก่อนต่อการพัฒนาของประเทศ โดยเฉพาะ บรรดผู้ชมสามารถเข้าถึงเอกสารและสิ่งของวัตถุเกี่ยวกับการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยต่างๆ รองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ ฝามมายหุ่ง รองนายกสมาคมวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์เวียดนามได้ยืนยันว่า งานนิทรรศการครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม พวกเราสามารถส่งเสริมพลังแห่งความสามัคคี       ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จ

“ในตลอด 91 ปีที่ผ่านมา ภายใต้การนำของพรรค การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคสมัยต่างๆได้แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่ยิ่งใหญ่ โดยสามารถระดมแหล่งพลังของประชาชาติเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่พรรคได้วางไว้ งานนิทรรศการนี้ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจได้ว่า ความสำเร็จเหมือนในปัจจุบันมาจากความสามัคคี”

คำพูด“สามัคคี  สามัคคี มหาสามัคคี ความสำเร็จ ความสำเร็จและความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” ของประธานโฮจิมินห์ได้กลายเป็นแนวทางการปฏิบัติของทั้งพรรค กองทัพและประชาชนในภารกิจการปลดปล่อยประชาชาติ ในยุคปัจจุบัน จิตใจแห่งความสามัคคีก็ได้รับการยกระดับเพื่อให้ประชาชนฟันฝ่าอุปสรรค ก้าวรุดหน้าไปบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่ประเทศภายใต้การนำของพรรค ซึ่ง“บทเพลงแห่งความสามัคคี”ยังคงก้องกังวาลเหมือนตอนประธานโฮจิมินห์นำการบรรเลงเพลง เพื่อกลายเป็นจิตใจและความตั้งใจสร้างสรรค์ประเทศเวียดนามให้เจริญสวยงามมากขึ้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด