ถนนที่ใช้ชื่อพลเอกหวอเงวียนย้าปที่เดียน เบียน

ชัยชนะแห่งประวัติศาสตร์วันที่ ๗ พฤษภาคมก่อนหน้านี้ ๖๐ ปีได้เปิดหน้าใหม่ให้แก่เดียน เบียนที่มีชนเผ่าไท ม้งและเย้าอาศัยอยู่  เดียน เบียนทุกวันนี้กำลังโตวันโตคืนทั้งด้านโฉมหน้าและด้านเศรษฐกิจ โดยอาคาร สิ่งปลูกสร้างต่างๆผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ดใกล้กับซากรถถังและรั้วลวดหนามของกองทัพฝรั่งเศส  ถนนทุกสายได้รับการตบแต่งด้วยธงทิว ดอกไม้และโพสเตอร์คำขวัญฉลองชัยชนะเดียน เบียน ฟูครบรอบ ๖๐ ปี  คุณลุงเล วัน เลิน วัย ๘๓ อาศัยที่อำเภอเถาะ ซวน จังหวัดแทงฮว้าทางภาคกลางประเทศ ที่เดินทางกลับสู่สมรภูมิในอดีตและได้ประจักษ์ถึงการพัฒนาของเมืองเดียน เบียน ฟู คุยกับพวกเราว่า  “ นับเป็นครั้งที่สองที่ผมมาเดียน เบียน แต่ยังมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกระคนกับความภาคภูมิใจและความศรัทธาต่อความเสียสละเลือดเนื้อของทหารพลีชีพเพื่อชาติเพื่อปลดปล่อยมาตุภูมิ  โบราณสถานทางประวัติศาสตร์ได้รับการอนุรักษ์และตบแต่งสวยงามกว่าคราวที่แล้ว ส่วนตัวเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นบ้านช่อง และถนนหนทาง ”

คุณลุงบ๊า เหมี่ยน อาศัยที่ตำบลเติน แทง เมืองเดียน เบียน ฟูที่เข้าร่วมยุทธนาการเดียน เบียน ฟูนั้นรู้สึกภาคภูมิเมื่อเห็นโฉมของจังหวัดเดียน เบียน เปลี่ยนแปลงไปมาก  คุณลุงเหมี่ยนเปิดเผยว่า เมื่อยุทธนาการเดียน เบียน ฟูยุติลง ท่านกับเพื่อนร่วมรบได้ทำความสะอาดสนามรบและช่วยเหลือชาวบ้านสร้างสรรค์ชีวิตใหม่ และท่านยังจดจำช่วงเวลาที่ทางการและชาวเดียน เบียน พยายามสร้างสรรค์หมู่บ้านตำบล คุณลุง เหมี่ยนกล่าว  “ ชีวิตความเป็นอยู่ช่วงนั้นยากลำบากมาก ไม่มีถนนพวกเราเดินทางเข้าหมู่บ้านเพื่อช่วยชาวบ้านทำการผลิตต้องเอาเกิมนั้มหรือข้าวปั้นและกระเป๋ายาติดตัวมาด้วย  แต่ปัจจุบัน ชีวิตของชาวบ้านที่นี่ดีขึ้นกว่าก่อนอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นและมีความผาสุกขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งหมู่บ้านเหมื่องแต่ที่เป็นจุดไกลสุดก็มีทางรถยนตร์เข้าถึงหมู่บ้าน ”

เมืองเดียน เบียน ทุกวันนี้ภาพจากมุมสูง

๖๐ ปีได้ผ่านพ้นไป เดียน เบียนกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและเดินบนเส้นทางการแก้ปีญหาความยากจนตามโครงการต่างๆของรัฐเช่น โครงการสนับสนุนที่ดินเพื่อการผลิต ที่ดินเพื่อพักอาศัยและโครงการน้ำบริโภคให้แก่ครอบครัวชนเผ่ายากจน  โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในตำบลชนกลุ่มน้อยและเขตเขายากจน โครงการสนับสนุนด้านที่พักอาศัยให้แก่ครอบครัวยากจนตลอดจนโครงการสนับสนุนอำเภอยากจนของรัฐบาล  คุณหล่อ ถิ่ เซ้ ตำบลเมือง ฟัง อำเภอ เดียน เบียน เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงแห่งความปิติยินดีว่า  “ พวกเรารู้สึกมีความสุขมาก เพราะหมู่บ้านสว่างไสวด้วยไฟฟ้าและมีน้ำสะอาดใช้ มื้ออาหารมีเนื้อและปลา พวกเราไม่ต้องห่วงเรื่องความอดอยากเหมือนเมื่อก่อนที่ไม่มีข้าวกินและเสื้อผ้าไม่พอใส่ ”

นายเหงวียน ฮิว เหียป รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอเหมื่อง อั๋ง เปิดเผยว่า ภายหลังดำเนินโครงการสนับสนุนอำเภอยากจนของรัฐบาล ภายในพื้นที่อำเภอมีครอบครัวยากจนอีกกว่า ๑,๑๐๐ ครัวเรือนได้รับการช่วยเหลือที่พักอาศัยและกว่า ๑๐,๕๐๐ ครัวเรือนได้รับการช่วยเหลือด้านการผลิต การสนับสนุนลูกวัวและควายเพื่อปรับการผลิตตลอดจนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานประมาณ ๓๐ แห่ง  นายเหียปกล่าว  “ จากการได้รับเงินช่วยเหลือเพื่อการผลิตชาวบ้านค่อยๆพ้นจากความยากจน สำหรับอำเภอเหมื่อง อั๋งนั้น ปัจจุบัน อัตราครอบครัวยากจนลดลงเหลือร้อยละ ๔๗ เมื่อเทียบกับร้อยละ ๖๘ ของปี ๒๐๑๑  ทางอำเภอตั้งเป้าไว้ว่า อัตราครอบครัวยากจนจะลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ ๔๐ ภายในปี ๒๐๑๕ ”

อนุสาวรีย์ปักใจชนะเดียน เบียน ฟู

จากความช่วยเหลือของพรรค รัฐและความพยายามของชาวบ้าน ปัจจุบัน จังหวัดเดียน เบียน มีอัตราครอบครัวยากจนลดลงอยู่ที่ร้อยละ ๓๕ เท่านั้น อัตราการขยายตัวจีดีพีระยะปี ๒๐๑๑-๒๐๑๓อยู่ที่ร้อยละ ๙.๖ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรกว่า๒๐ล้านด่งต่อปีประมาณ ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี ส่วนด้านวัฒนธรรมและสังคมก็กำลังพัฒนา ถนนสายหลักได้รับการซ่อมแซมและยกระดับให้ดีขึ้น สะดวกแก่การสัญจร ขณะนี้เหลือตำบล ๕ แห่งที่ไม่มีทางรถยนต์เข้าถึงใจกลางเมือง อำเภอทุกแห่งมีไฟฟ้าใช้  ทางจังหวัดเดียน เบียนวางแผนจะเน้นในการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบเศรษฐกิจ รักษาอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจอยู่ในร้อยละ ๑๒ต่อปี รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่ ๑,๑๐๐ เหรียญสหรัฐต่อปี อัตราครอบครัวยากจนลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ ๑๕ต่อปีให้เสร็จภายในปี ๒๐๑๕  นายฝ่าม ซวน โกย รองประธานคณะกรรมการจังหวัดเดียน เบียนเปิดเผยว่า เพื่อประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ทางจังหวัดกำลังแสวงหามาตรการแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน นายโกยกล่าว “ ในเวลาที่จะถึง ทางจังหวัดยังเน้นในด้านการแก้ปัญหาความยากจน โดยสำรวจครอบครัวยากจนและสาเหตุของความยากจน  นอกจากนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านตระหนักถึงหน้าที่ของตนในความพยายามพ้นจากความยากจนและดำเนินโครงการประสบความสำเร็จ  อีกทั้งเน้นยกระดับทักษะความสามารถในการบริหารของเจ้าหน้าที่ข้าราชการระดับพื้นฐาน  ทั้งนี้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดอย่างยั่งยืน ”