พัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนาม

(VOVWORLD) -ร่างโครงการ “สนับสนุนระบบนิเวศสตาร์ทอัพเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมแห่งชาติถึงปี 2025” หรือร่างโครงการ 844 ได้รับการอนุมัติจากนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2016 ซึ่งถือเป็นปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมของเวียดนามเพื่อพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรม อำนวยความสะดวกให้แก่ก่ารผลักดันกระบวนการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและช่วยให้ระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนามพัฒนาตามแนวโน้มของการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก
พัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนาม - ảnh 1นาย เหงียนเหวียดหยุง ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนครโฮจิมินห์ (VNA)
นับตั้งแต่ที่ปฏิบัติร่างโครงการดังกล่าว การส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพได้ประสบผลที่น่ายินดีในเบื้องต้น โดยเมื่อปี 2021 นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติเนื้อหาใหม่ๆ เพื่อขยายขอบเขตการปฏิบัติให้แก่ระบบนิเวศแห่งชาติบนเวทีโลก จากนั้น ได้มีการจัดกิจกรรมเชื่อมโยงกับบรรดาผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษา รวมทั้งสร้างสรรค์เครือข่ายคนเวียดนามในต่างประเทศเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ร่วมมือในเชิงลึกกับหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ต่างๆเพื่อสนับสนุนการยกระดับทักษะความสามารถให้แก่เจ้าของของระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมของเวียดนาม

เมื่อเร็วๆนี้ StartupBlink ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรมทั่วโลกได้ประกาศตารางการจัดอันดับระบบนิเวศสตาร์ทอัพปี 2021 สำหรับนคร 1,000 แห่งและ 100 ประเทศทั่วโลก โดยเวียดนามติดอันดับที่ 59 ซึ่งเป็นอันดับเดียวกับเมื่อปี 2020 ที่น่าสนใจคือ ทั้งกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ของเวียดนามต่างเลื่อนขึ้นอันดับ โดยนครโฮจิมนห์ได้เลื่อนขึ้น 46 อันดับ อยู่อันดับที่ 179 เนื่องจากมีการขยายตัวอย่างน่าประทับใจ ส่วนกรุงฮานอยได้เลื่อนขึ้น 5 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2020 ซึ่งช่วยให้ทั้งสองเมืองนี้ที่เป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมของเวียดนามติดท็อป 200 ของโลก

พัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของเวียดนาม - ảnh 2นาย เจิ่นวันตุ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (VNA)

ตัวเลขที่น่าประทับใจดังกล่าวถือเป็นผลสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของระบบนิเวศสตาร์ทอัพเวียดนาม พร้อมทั้งเปิดความหวังว่า จากการมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน เวียดนามจะมีเมืองใหม่ๆ นอกเหนือจากกรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ที่ติดท็อปเมืองแห่งการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรมในปีต่อๆ ไป โดยเวียดนามตั้งเป้าหมายพัฒนาศูนย์สนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพแห่งชาติ ใน 3 เมืองใหญ่คือ กรุงฮานอย นครดานังและนครโฮจิมินห์และมีศูนย์ธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมประจำกระทรวง หน่วยงาน ท้องถิ่นและองค์กรต่างๆ แต่เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว นาย เจิ่นวันตุ่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ย้ำว่า

“นับตั้งแต่ปี 2022 เราได้เน้นประชาสัมพันธ์ เผยแพร่และแนะนำความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศสตาร์ทอัพ โดยมีการจัดโครงการต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงระหว่างสถานประกอบการ สถาบันวิจัย มหาวิทยาลัยและสถานประกอบการสตาร์ทอัพ เพื่ออัพเดทความรู้ใหม่ ๆ เกี่ยวกับระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมในกระบวนการศึกษาและฝึกอบรม”

การทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมในเวียดนามถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งได้รับการขานรับจากหน่วยงานทุกระดับ องค์กรและบุคคล โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ รองศ. ดร. โด๋แองดึ๊ก สมาชิกของกลุ่มให้คำปรึกษาร่างโครงการสนับสนุนเยาวชนสตาร์ทอัพระยะปี 2020-2030 ได้แสดงความคิดเห็นว่า

“ในหลายปีมานี้ เวียดนามได้ประกาศนโยบายต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของพรรค รัฐและรัฐบาลเพื่อสร้างบรรยากาศที่เอื้อให้คนรุ่นใหม่สามารถพัฒนาและทำตามแนวคิดต่างๆ แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อส่งเสริมจิตใจแห่งการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมในคนรุ่นใหม่มากขึ้น ผมคิดว่า ควรเน้นถึงการก่อตั้งและส่งเสริมคุณค่าของระบบนิวเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรม ซึ่งต้องมีความเชื่อมโยง สามารถส่งเสริมบทบาทของทุกภาคส่วนในระบบนิเวศและสร้างบรรยากาศที่ผลักดันแนวคิดและโครงการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนวัตกรรมของคนรุ่นใหม่ทั้งภายในและต่างประเทศ”

สถานประกอบการสตาร์ทอัพนวัตกรรมได้มีส่วนร่วมสร้างงานทำและมูลค่าเพิ่มให้แก่ระบบเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ สำหรับในเวียดนาม ขบวนการทำธุรกิจสตาร์ทอัพนับวันมีความคึกคักมากขึ้นและระบบนิเวศสตาร์ทอัพนวัตกรรมได้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิผลและประสบความสำเร็จในเบื้องต้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด