สตรีผู้ที่หลงไหลการทำเกษตร

(VOVWORLD) - นาง เหงียนถิห่า อายุ 38 ปี เกิดและโตในหมู่บ้านชนบท มีความหลงไหลในการทำเกษตร โดยเมื่อปี 2017 เธอได้ฟันฝ่าอุปสรรคจนสามารถก่อตั้งสหกรณ์ผลิต ประกอบธุรกิจและให้บริการการเกษตรถวีเฮืองในอำเภอเกี๊ยนถวิ นครไฮฟอง เพื่อปรับเปลี่ยนทุ่งหญ้าให้เป็นทุ่งนาขนาดใหญ่ที่ผลิตสินค้า OCOP ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
สตรีผู้ที่หลงไหลการทำเกษตร - ảnh 1นาง เหงียนถิห่าเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ
 
เมื่อ 4 เดือนก่อน ทุ่งหญ้าที่กว้างกว่า 20 เฮกตาร์ของตำบลหงูดวาน อำเภอเกี๊ยนถวี นครไฮฟอง ยังคงถูกทิ้งร้างจนต้นหญ้าสูงท่วมศีรษะ แต่ปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้ได้กลายเป็นทุ่งนาที่ต้นข้าวกำลังออกรวงสีเหลืองอร่าม ซึ่งผู้ที่ช่วยสร้างโฉมใหม่นี้ให้แก่ทุ่งนาต่างๆ คือนาง เหงียนถิห่า ผู้อำนวยการและประธานกรรมการสหกรณ์ถวีเฮือง เมื่อเห็นชาวบ้านทิ้งนาร้างเพื่อไปทำงานอื่นที่มีรายได้สูงกว่า นาง ห่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากจึงขอเช่าที่จากทางการท้องถิ่นและเกษตรกรที่เป็นเจ้าของนาเหล่านี้ โดยหลังจากนั้นราว 20 วัน ทุ่งหญ้าเหล่านี้ได้กลายเป็นทุ่งนาที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับทุกคน นี่เป็นหนึ่งในธุรกิจของทางสหกรณ์ฯ ตอนที่นางห่า อายุ 24 ปี เธอเห็นว่าพื้นที่เจื่องเซิน ในแขวงอันลาว นครไฮฟอง ที่ตนอาศัยอยู่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงได้ตัดสินใจเรียนรู้วิธีการปลูกและลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อเพาะปลูกเอง จากความขยันหมั่นเพียรและพิถีพิถัน เธอได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เกษตรกรคนอื่น ๆ  จนมีหลาย ๆ คนศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์ของเธฮในการใช้เครื่องจักรเพื่อทำการเกษตร เมื่อปี 2017 สหกรณ์ฯ ได้รับการก่อตั้งโดยมีสมาชิก 9 คน โดยปัจจุบันมีสมาชิก 13 คน มีบริษัทจำกัด 2 แห่งและบริษัทในเครืออีก 1 แห่ง และมีที่ดินเพื่อทำเกษตร 300 เฮกตาร์ในอำเภอเกี๊ยนถวีและอำเภอใกล้เคียง เช่น หวิงบ๋าว เตียนหลางในนครไฮฟองและนิงยาง ตื๊อกี่ในจังหวัดหายเยือง นางห่า บอกว่า

“ปัจจุบันนี้ ทางบริษัทของเรากำลังให้บริการด้านเครื่องจักร พันธุ์พืชและจำหน่ายสินค้าให้แก่เกษตรกรใน 8 จังหวัดภาคเหนือ โดยใครๆ ก็อยากทำนาแล้ว ไม่อยากทิ้งนาให้ร้างอีก เราก็มุ่งสู่การพัฒนาการเกษตรที่สะอาดและเกษตรแบบรวมศูนย์ และเพื่อค้ำประกันคุณภาพและเครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้า เราจึงได้นำเครื่องจักรที่ทันสมัยต่างๆ มาใช้ เช่น เครื่องหว่าน เครื่องใส่ปุ๋ยและโดรนพ่นยาฆ่าแมลง”

นอกจากนี้ นางห่าก็ทดลองปลูกข้าวในพื้นที่เลี้ยงเพรียงทราย โดยในฤดูแรกๆ ได้ประสบอุปสรรคในการรณรงค์ให้ชาวบ้านปฏิบัติตาม แต่หลังจากที่เห็นผลสำเร็จ ทุกคนก็สนับสนุนอย่างเต็มที่ ข้าวที่ปลูกในนาเลี้ยงเพรียงทรายมีผลผลิตถึง 3.3-3.5 ตันต่อเฮกตาร์ สร้างรายได้ตั้งแต่ 29.7-32 ล้านด่งต่อเฮกตาร์ สูงกว่า 2-3 เท่าเมื่อเทียบกับการปลูกข้าวในพื้นที่ธรรมดา นอกจากนี้ ข้าวที่ปลูกในพื้นที่เลี้ยงเพรียงทรายก็มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าวทั่วไป ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากผู้บริโภค

สตรีผู้ที่หลงไหลการทำเกษตร - ảnh 2ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทีทันสมัยต่างๆ 

ปัจจุบันนี้ ทางสหกรณ์ฯ กำลังรับซื้อข้าวที่ปลูกในพื้นที่เลี้ยงเพรียงทรายทั้งหมดของเกษตรกรในอำเภอเกี๊ยนถวีและท้องถิ่นอีกบางแห่งรวมพื้นที่กว่า 200 เฮกตาร์ โดยแต่ละปี ทางบริษัทฯ ขายข้าวทั่วไปได้ประมาณ 600 ตันและข้าวที่ปลูกในพื้นที่เลี้ยงเพรียงทรายอีก 100 ตันด้วยราคาประมาณ 4หมื่น-5หมื่นด่งต่อกิโลกรัมและนับตั้งแต่ปี 2019 ข้าวชนิดนี้ของสหกรณ์ได้เข้าร่วมโครงการ OCOP ของนครไฮฟอง ขณะนี้ ทางสหกรณ์มีผลิตภัณฑ์ OCOP ระดับ 4 ดาว รวม 4 รายการและระดับ 3 ดาว รวม 5 รายการ ซึ่งได้รับการจำหน่ายในร้านค้าและซุปเปอร์มาเก็ตของจังหวัดและนครกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ นาย บุ่ยวันก๊วด รองประธานคณะกรรมการประชาชนตำบลถวีเฮือง อำเภอเกี๊ยนถวี ยืนยันว่า นางห่าและทางสหกรณ์ฯ ได้มีส่วนร่วมเปลี่ยนความเคยชินในการทำเกษตรของชาวบ้านในท้องถิ่น

“เมื่อก่อน ชาวบ้านมักจะทำนาในรูปแบบดั้งเดิม แต่หลังจากที่สหกรณ์ฯ ได้รับการก่อตั้ง พร้อมกับการประสานงานจากทางการท้องถิ่น ทางสหกรณ์ฯ ได้นำเครื่องจักรมาใช้ในพื้นที่นาราว 40 เฮกตาร์ในตำบลฯ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าเกษตร เพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและแก้ไขปัญหาพื้นที่ทำเกษตรถูกทิ้งร้าง”

จากความหลงไหลและความพยายามศึกษาหาความรู้ในการใช้เครื่องจักรเพื่อทำเกษตร นาง เหงียนถิห่า ได้มีส่วนร่วมสร้างสรรค์ทุ่งนาขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและเพิ่มมูลค่าของสินค้าการเกษตร จากความสำเร็จเหล่านี้ นางห่า ได้รับการยกย่องในงานมหกรรมสตรีไฮฟองที่มีความสามารถและมีความคิดสร้างสรรค์และได้รับรางวัล “เกษตรกรเวียดนามดีเด่น” ประจำปี 2023 . 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด