นายเหงวียนมิงหวู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม และนายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอยลุ้นเชียร์ให้ “ภูเก็ต” ได้เป็นเจ้าภาพจัด Specialised Expo 2028 (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

ในการประชุมสามัญคณะกรรมการ Bureau of International Exposition (BIE) ประจำปีครั้งที่ 171 ในระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส    ทีมประเทศไทยได้นำเสนอความพร้อมครั้งที่ 2 (2nd Country Presentation) ในการเสนอเป็นเจ้าภาพการจัดงาน Specialised Expo  ปี  2028  โดยต้องแข่งกับอีก 4 ประเทศประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สเปน เซอร์เบียและอาร์เจนตินา นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้เผยว่า

“ประเทศไทยก็มีความมุ่งหวังว่า เราจะได้รับการสนับสนุนเพราะว่าเราจะจัดที่ภูเก็ต ซึ่งภูเก็ตเป็นที่ที่ทุกคนจะรู้จักอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ประเทศไทยอยากเสนอไม่ใช่แค่เป็นเมืองชายหาดที่ทะเลสวย มีเกาะ แต่ว่าเราอยากนำเสนอในมุมใหม่คือการมี medical tourism ที่ดี เป็นเมืองที่มีอาหาร มีวัฒนธรรมและเป็นเมืองที่พร้อมจะจัด expo รับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมประชุมได้อย่างครบถ้วน ครบวงจร เราหวังว่า เราจะได้รับการเลือกตั้งจากเพื่อนๆสมาชิก มี 170ประเทศจะเลือกกันที่ฝรั่งเศสในเดือนกรกฎาคมปีหน้า”

กิจกรรมถ่ายภาพที่ระลึกที่ “Phuket Corner Photo Booth” ในงานวันชาติไทย ณ กรุงฮานอย (ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

สำหรับงาน Specialised Expo 2028 ถือเป็นงานมหกรรมใหญ่ระดับโลก รองจาก World Expo ที่มีระยะเวลาการจัดงานนานถึง 3 เดือน ซึ่งการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของไทยในครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ในการจัดงานมหกรรมระดับโลก ซึ่งทางการไทยได้ขอการสนับสนุนจากประเทศต่างๆในภูมิภาค รวมถึงเวียดนาม  นายนิกรเดช พลางกูร เอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้เผยต่อไปว่า

“ท่านนายกรัฐมนตรีไทยได้ขอท่านประธานประเทศเหงวียนซวนฟุกแล้วตอนท่านไปเข้าร่วมเอเปก แล้วท่านนายกรัฐมนตรีก็ยกขึ้นกับท่านประธานประเทศเวียดนามว่า ขอให้เวียดนามช่วยสนับสนุนไทยเพราะเราเป็นมหามิตรกัน เราเป็นเพื่อนรักกันและเราก็เป็นอาเซียนด้วยกัน”

นอกจากบริการทางด้านสุขภาพที่มีมาตรฐานของโรงพยาบาลใหญ่ 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ขนาด 600 เตียง โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ขนาด 200 เตียงและโรงพยาบาลกรุงเทพสิริโรจน์ จังหวัดภูเก็ต  ไทยจะใช้พื้นที่กว่า 141 ไร่ใกล้กับสะพานสารสิน ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สำหรับพื้นที่จัดงาน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนของโครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ตสู่เมืองท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก โดยมีสร้างศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และส่วนของงานเอ็กซ์โปที่มีแผนจะสร้างศูนย์ประชุมขนาด 5,000 ที่นั่งเพิ่มเติม สำหรับศูนย์บริการทางการแพทย์ครบวงจร  ประกอบด้วย ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร (International Health/Medical Plaza) ศูนย์อภิบาลสุขภาพผู้สูงอายุนานาชาติ (Premium Long Term Care) ศูนย์ใจรักษ์ (Hospice Home) หรือศูนย์การดูแลแบบประคับประคองในระยะสุดท้ายของชีวิต และศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูครบวงจร (Rehabilitation Center) ซึ่งตามแผน ศูนย์บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขระดับนานาชาติครบวงจร จะเริ่มดำเนินการในปีหน้าและจะแล้วเสร็จในปี 2569

ภาพที่ระลึกที่ “Phuket Corner Photo Booth”(ภาพจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย)

ในการผลักดันประเทศไทยไปสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพในระดับโลก ทางการไทยได้วางแนวทางพัฒนา 4 จังหวัดภาคใต้เป็นระเบียงเศรษฐกิจสุขภาพอันดามัน ได้แก่ภูเก็ต กระบี่ พังงา และระนอง จัดตั้งโรงพยาบาลเฉพาะทางขั้นสูงเพื่อรักษามะเร็ง และพัฒนาการผลิตบุคลากรทางการแพทย์นานาชาติเพื่อรองรับ Medical Hub

ส่วนสำหรับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย ได้จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อชวนคนไทยส่งแรงเชียร์ให้ “ภูเก็ต” ได้เป็นเจ้าภาพจัด Specialised Expo 2028  ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ นาย ตะกวางหงอก ประธานสมาคมมิตรภาพเวียดนาม-ไทยได้ให้ข้อสังเกตว่า

“งาน Specialised Expo ที่ไทยได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพเป็นสิ่งที่ดีมาก ในความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับไทย  จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกครบรอบ 10 ปีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในปีหน้า เช่น ความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ทั้งด้านการลงทุน การค้าและวัฒนธรรม ส่วนความร่วมือด้านเศรษฐกิจ ต้องถือความยั่งยืนเป็นปัจจัยที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ”

  ผลการโหวตเกี่ยวกับสถานที่จัดงาน Specialised Expo จะประกาศในปีหน้า แต่ทางการภูเก็ตได้ตั้งเป้าในอีก 10 ปีข้างหน้าว่า ผู้คนต้องมีอายุยืนมากขึ้นและต้องมีสุขภาพดีด้วย    โรคเบาหวาน ความดัน มะเร็งในคนภูเก็ตต้องลดลง นอกจากนี้ยังต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ รวมไปถึงการพัฒนาระบบการจัดการขยะที่ได้มาตรฐานจากการเตรียมความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ.