จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและหมู่เกาะ

(VOVWORLD) - จากความได้เปรียบคือมีชายฝั่งทะเลยาวนับร้อยกิโลเมตร มีชายหาดที่ราบเรียบ น้ำทะเลใสสะอาดและเขตกงดอที่มีเกาะน้อยเกาะใหญ่จำนวนมาก จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ามีความได้เปรียบจากธรรมชาติเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเล ทางการจังหวัดฯ ได้กำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักในปัจจุบันและระยะต่อไป จึงได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆเพื่อผลักดันศักยภาพทางทะเลและหมู่เกาะ
จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเลและหมู่เกาะ  - ảnh 1จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ามีชายฝั่งทะเลยาวนับร้อยกิโลเมตร

จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจที่คล่องตัวมากที่สุดของเวียดนาม ซึ่งมีถนนสายเอเชีย ถนนมอเตอร์เวย์ ทางหลวง ท่าเรือ สนามบินและเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ในเขตตะวันออกภาคใต้และเป็นเส้นทางการท่องเที่ยวทะเลที่มีชื่อเสียงของประเทศและโลก จังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าอยู่ห่างจากนครโฮจิมินห์เพียง 90 ก.ม. ซึ่งสะดวกแก่การเดินทางทั้งทางน้ำและทางบก

ในหลายปีที่ผ่านมา บ่าเหรียะ – หวุงเต่าเป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศเนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาและการบริการที่มีคุณภาพสูง การมีชายหาดที่สวยงาม มีรีสอร์ทหรูหราที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเขตอนุรักษ์ธรรมชาติบิ่งโจว์ – เฟือกบิ๋วและธารน้ำร้อนบิ่งโจว์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจและรักษาโรค โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำดูแนวปะการังที่สวยงามต่างๆที่เขตทะเลหมู่เกาะกงดอหรือไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์ต่างๆ ซึ่งได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่านับล้านคนต่อปี โดยที่ได้กำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลัก ทางการจังหวัดได้ปฏิบัติมาตรการต่างๆและมีแผนการพัฒนาที่หลากหลาย

นายเหงียนวันจิง อดีตประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่าเผยว่า            “ทางจังหวัดได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากถึงจุดแข็งของท้องถิ่นจากการมีชายฝั่งทะเลยาวกว่า 200 ก.ม.  โดยจะตรวจสอบและคัดเลือกโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวที่เหมาะสม ซึ่งโครงการที่ได้รับเลือกนั้นต้องเข้าร่วมยุทธศาสตร์การวางผังกับนักลงทุนเพื่อจะได้มีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่เหมาะสม พร้อมทั้งเน้นถึงโครงการที่รักษาความสะอาดชายหาด รวมถึงการพัฒนาโครงการของ Paradise, Atlantic และโห่จ่าม โครงการก่อสร้างสวนสนุกเหมือนฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น"

ทางการจังหวัดยังกำหนดว่า ในเวลาข้างหน้า จะระดมแหล่งพลังต่างๆเพื่อพัฒนาเกาะกงดอให้เป็นเขตท่องเที่ยวแห่งชาติที่มีความเป็นธรรมชาติมีเอกลักษณ์และมีการให้บริการเป็นระดับภูมิภาคและโลก โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 ทางการจังหวัดฯได้อนุญาตให้ทดลองเปิดให้บริการเรือความเร็วสูงกงดอ – นครโฮจิมินห์ด้วยความเร็ว 30 ไมล์ทะเลต่อชั่วโมง ซึ่งจะให้บริการทุกวันยกเว้นวันที่มีพายุ

นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯก็ตรวจสอบและเร่งรัดให้ปฏิบัติโครงการท่องเที่ยวตรงตามเวลาที่กำหนดและยุติโครงการที่ล่าช้า โดยมีนโยบายดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่ โดยเฉพาะดึงดูดการลงทุนในอำเภอเซวียนหมก ซึ่งเป็นอำเภอที่มีเส้นทางริมฝั่งทะเลที่เอื้อให้แก่การพัฒนาการท่องเที่ยวทางทะเล นางเจิ่นถิทูเหี่ยน รองผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวจังหวัดบ่าเหรียะ – หวุงเต่ายืนยันว่า            “เพื่อมีผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีคุณภาพสูง เราต้องเน้นถึงการดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่เพื่อส่งเสริมการลงทุนในเขตท่องเที่ยวสำคัญๆ เช่น Paradise และเขตท่องเที่ยวแห่งชาติกงดอ เป็นต้น เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวระดับหรูหราในเวลาที่จะถึง”

มติของการประชุมพรรคสาขาจังหวัดบ่าเหรียะ  หวุงเต่าสมัยที่ 4 วาระปี 2015-2020 ได้กำหนดว่า การท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางทะเลจะเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัด ดังนั้นในปี 2019 นี้ ทางการจังหวัดฯ ตั้งเป้าไว้ว่า จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกว่า 3 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปี 2018 โดยทางการจังหวัดฯได้ระดมพลังทุกแหล่งเพื่อพัฒนากงดอให้เป็นเขตท่องเที่ยวแห่งชาติระดับภูมิภาคและโลก และจากศักยภาพที่มีอยู่ พร้อมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่ถือการท่องเที่ยวเป็นเศรษฐกิจหลักนั้น ทางการจังหวัดกำลังฟื้นฟูสถานะเป็นท้องถิ่นนำหน้าของประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจทางทะเลและหมู่เกาะอย่างเข้มแข็ง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด