สัตว์นํ้ามีส่วนร่วมในการสร้างก้าวกระโดดให้แก่การขยายตัวด้านการส่งออกของเวียดนาม (Photo: congnghieptieudung.vn)

กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ประเมินว่า กลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกในระดับสูงคือโทรศัพท์มือถือและชิ้นส่วนที่บรรลุ 3 หมื่น 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาคือผลิตภัณฑ์สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป ซึ่งคาดว่า จะอยู่ที่ 2หมื่น 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนอาจจะบรรลุ 2 หมื่น 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น รองเท้า สัตว์นํ้า ผักและผลไม้ก็ได้สร้างก้าวกระโดดให้แก่การขยายตัวด้านการส่งออก

ซึ่งเพื่อสามารถบรรลุผลงานดังกล่าว ตั้งแต่ต้นปี เวียดนามได้ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งต่างๆอย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะในการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตร ป่าไม้ ผักและผลไม้ โดยในขณะที่ผลิตภัณฑ์จากไม้ของจีนถูกสหรัฐเก็บภาษีต่อต้านการขายทุ่มตลาด ซึ่งทำให้บริษัทของสหรัฐต้องหันมาแสวงหาหุ้นส่วนในประเทศอาเซียน รวมถึงเวียดนาม สถานประกอบการเวียดนามได้ใช้โอกาสดังกล่าวอย่างมีประสิทธิภาพและใน 6 เดือนแรกของปี2017  ได้ส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้ มูลค่า 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐไปยังสหรัฐอเมริกา  กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมได้ให้ข้อสังเกตว่า อุตสาหกรรมไม้ของเวียดนาม โดยเฉพาะเครื่องเฟอร์นิเจอร์จะมีโอกาสอีกมากในการเจาะตลาดสหรัฐในเวลาข้างหน้า นาย เหงวียนโตนเกวี่ยน ประธานสมาคมอุตสาหกรรมไม้และผลิตภัณฑ์จากป่าเวียดนามได้เผยว่า“มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้ใน 6 เดือนแรกของปี2017  เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจ คาดว่า มูลค่าการส่งออกเครื่องไม้ในปี2017 จะอยู่ที่  7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  ซึ่งผลสำเร็จดังกล่าวเนื่องจากการขยายตัวของตลาดส่งออกหลัก เช่น มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไม้ไปยังสหรัฐจะเพิ่มขึ้นจาก  2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปีที่แล้วมาอยู่ที่ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้  รองลงมาคือมูลค่าการส่งออกไปยังสาธารณรัฐเกาหลีที่เพิ่มขึ้น 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับปีที่แล้วและจะบรรลุ 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 ส่วนสำหรับตลาดใหม่ เช่น อินเดีย แคนาดา รัสเซียและภูมิภาคตะวันออกกลาง ต่างมีสัญญาณที่สดใส”

นอกจากนี้ การส่งออกผลิตภัณฑ์เส้นใยก็ถือเป็นจุดเด่นของภาคการส่งออกเวียดนามเมื่อสถานประกอบการเวียดนามได้ใช้ประโยชน์จากผลการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียนกับจีนและระหว่างสาธารณรัฐเกาหลีกับเวียดนาม โดยมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เส้นใยไปยังจีนและสาธารณรัฐเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ 1.67 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยเฉพาะในปีนี้ ผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามสามารถเจาะตลาดที่มีมาตรฐานที่เข้มงวด เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย โดยจนถึงเดือนพฤศจิกายน มูลค่าการส่งออกผักและผลไม้ของเวียดนามได้บรรลุ 3.16 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทิ้งห่างมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ส่งออกหลักต่างๆ เช่น ข้าว ยางพารา ชาและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ นอกเหนือจากการส่งออกผักและผลไม้ไปยังจีน สถานประกอบการเวียดนามได้ลงนามสัญญาซื้อขายผักและผลไม้กับบริษัทต่างๆในสาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่นและสหรัฐ เนื่องจากได้รับการประเมินว่า มีคุณภาพดีสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดเหล่านี้และผู้บริโภค

แก้วมังกรของเวียดนามได้รับความนิยมในตลาดโลก(Photo: congnghieptieudung.vn)

ควบคู่กับการสร้างก้าวกระโดดในการส่งออกผักและผลไม้ การส่งออกสัตว์นํ้าก็ได้บรรลุผลงานที่น่ายินดี โดยมูลค่าการส่งออกสัตว์นํ้าในปี 2017 อยู่ที่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ในต้นปีคือ 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเนื่องจากการขยายตัวของตลาดส่งออกใหม่  กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า อัตราการขยายตัวด้านการเกษตรในปี 2017 จะอยู่ที่ร้อยละ 3 นาย เหงวียนซวนเกื่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทได้ยืนยันว่า“เราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์การส่งออกต่างๆที่เป็นจุดแข็งของเวียดนาม  ปีนี้ มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรจะอยู่ที่ 3 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ  เวียดนามตั้งใจพัฒนาห่วงโซ่คุณค่าในการผลิตเกษตรและการแปรรูปเพื่อขยายตลาดการส่งออก นอกจากนี้ ต้องให้ความสนใจและให้ความสำคัญต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตรเพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งตลาดภายในประเทศที่มีประชากร 92 ล้านคนและตลาดต่างประเทศที่มีประชากร 7 พันล้านคน”

ทั้งนี้และทั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า จุดเด่นในการส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรของเวียดนามได้ยืนยันถึงบทบาทของหน่วยงานเกษตรที่เป็นหนึ่งในเสาหลักที่สำคัญของเศรษฐกิจ ช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนเพื่อให้หน่วยงานเกษตรตั้งเป้าหมายการขยายตัวในปีต่อๆไปให้อยู่ในระดับสูงและมีส่วนร่วมมากขึ้นต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ.