พัฒนาการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจังหวัดเซินลา

(VOVWORLD) -จังหวัดเซินลาตั้งอยู่ในเขตเขาภาคตะวันตกของเวียดนาม มีศักยภาพด้านการเกษตรโดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาเขตผลิตแบบรวมศูนย์ขนาดใหญ่ จากความได้เปรียบของพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์กว่า 9 แสนเฮกตาร์ รวมทั้งเขตที่ราบสูงโหมกโจว์และหน่าสานบวกกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ในเวลาที่ผ่านมา จังหวัดเซินลาได้เน้นพัฒนาการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจนประสบผลที่น่าประทับใจต่างๆ
พัฒนาการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจังหวัดเซินลา - ảnh 1 ฟาร์มเลี้ยงโคว์นมที่โหมกโจว์

สหกรณ์จำหน่ายลำไยมายเซิน – เซินลาได้ปลูกลำไย มะม่วง ส้ม ส้มโอและกล้าไม้ชนิดต่างๆกว่า 4 หมื่นสายพันธุ์ตามมาตราฐานเวียดแก๊ป ตั้งแต่ขั้นตอนการตัดแต่งกิ่งไปจนถึงวิธีการเสริมราก การใช้ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืชมาแล้ว 2 ปี นายเหงียนวันฝ่อง ประธานคณะกรรมการบริหารและผู้อำนวยการสหกรณ์ฯ เผยว่า การปลูกตามมาตรฐานนี้ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพบวกกับการมียี่ห้ออย่างชัดเจนได้ช่วยให้ผลไม้ของสหกรณ์ได้รับความนิยมจากลูกค้าในภาคเหนือเวียดนามเป็นอย่างมาก ซึ่งห้างสรรพสินค้าต่างๆได้สั่งซื้อผลผลิตทั้งหมดตั้งแต่ต้นฤดูแล้ว คุณ เหงียนหิวจิ่ง อาศัยอยู่ในตำบลเจี่ยงมุน ซึ่งเป็นสมาชิกของสหกรณ์เผยว่า            “เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ผลิตสินค้าที่ปลอดสารพิษให้แก่ผู้บริโภค ผู้บริโภคควรใช้สินค้าที่มีคุณภาพ มีที่มาที่ไปที่ชัดเจนและได้รับประกันแบบนี้”

สำหรับบริษัทหุ้นส่วนพันธุ์โคนมโหมกโจว์ ซึ่งเป็นสถานประกอบการผลิตนมชั้นนำของเวียดนามก็ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างมาก นอกจากได้ใช้มาตราฐานเวียดแก๊ปในการเลี้ยงโคนม ครอบครัวต่างๆที่มีฟาร์มเลี้ยงโคนมของบริษัทฯยังประยุกต์ใช้เครื่องจักรในการรีดนม สับหญ้าสด ตัดหญ้า หรือมีรถบรรทุกนมไปยังศูนย์กลางรับซื้อนมสด เป็นต้น โดยปัจจุบันนี้ มีฟาร์มเลี้ยงโคนมเกือบ 600 แห่ง รวมโคนมกว่า 23,000 ตัว นายเจิ่นกงเจี๊ยน ประธานคณะกรรมการผู้บริหารของบริษัทเผยว่า            “คุณภาพคือความอยู่รอดของทางบริษัท ดังนั้นเราได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและได้รับใบรับรองเวียดแก๊ปในการเลี้ยงโคนม ส่วนในการแปรรูป เราได้ปฏิบัติตามมาตราฐาน Iso 9001 - 2008 พร้อมทั้งให้ความสนใจในเรื่องความปลอดภัยด้านอาหารเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ ตลอดจนพยายามพัฒนาการเลี้ยงโคนมควบคู่กับการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตที่ราบสูงโหมกโจว์”

นี่เป็น 2 บริษัทตัวอย่างที่ได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงจนประสบความสำเร็จในจังหวัดเซินลา ซึ่งปัจจุบันนี้ ทางจังหวัดเซินลาสามารถพัฒนาระบบห่วงโซ่อุปทานด้านการเกษตรและสัตว์น้ำปลอดสารพิษ 47 ระบบช่วยให้ยอดมูลค่าการส่งออกของจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การส่งออกชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 แป้งมันสำปะหลังเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 มะม่วง ลำใย เสาวรสและผักกาดหอมก็สามารถส่งออกไปยังตลาดที่มีมาตรฐานเข้มงวด เช่น บรรดาประเทศยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐและสาธารณรัฐเกาหลี

อย่างไรก็ดี เพื่อบรรลุผลงานดังกล่าว ทางการจังหวัดเซินลาได้เน้นพัฒนาการเกษตรพร้อมกับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงให้ลุล่วงไปด้วยดีผ่านการตรวจสอบ ปรับแผนการผลิตแบบรวมศูนย์ เน้นพัฒนาห่วงโซ่อุปทานด้านเกษตร ถ่ายทอดเทคโนโลยีวิธีการเพาะปลูกใหม่ๆและพันธุ์พืชที่มีคุณภาพสูงให้แก่เกษตรกร เช่น ระบบรดน้ำหยดของอิสราเอลที่มีการใช้พร้อมกับการใช้ปุ๋ยละลายน้ำรดให้ต้นกาแฟ ชาและผลไม้ ตลอดจนส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และสร้างเครื่องหมายการค้าให้แก่สินค้าการเกษตรเพื่อดึงดูดนักลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมการแปรรูปสินค้าเกษตร

นอกจากนี้ ทางการจังหวัดฯได้ตั้งเป้าไว้ว่า ถึงปี 2020 จะมีเขตผลิตสินค้าการเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงได้รับใบรับรองจากสำนักงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 แห่งและสถานประกอบการ 2 แห่งได้รับการรับรองเป็นสถานประกอบการที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง มีสัดส่วนมูลค่าการผลิตเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงคิดเป็นร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 25 ของยอดมูลค่าการผลิตเกษตรของจังหวัด นางเกิ่มถิฟอง รองผู้อำนวยการสำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทจังหวัดเซินลาเผยว่า            “หนึ่งคือ ต้องตรวจสอบการวางผังพัฒนาชนบท เขตประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงให้สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่น สองคือพัฒนาโครงการพัฒนาพันธุ์ผลไม้ที่มีคุณภาพสูง ปลอดโรคระบาดและถ่ายทอดเทคโนโลยการปลูกแบบใหม่ให้แก่เกษตรกร สามคือจัดทำและประกาศกลไกนโยบายที่สนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ลงทุนและวิจัยการประยุกต์ใช้ดังกล่าวในขอบเขตใหญ่ ส่งเสริมการผลิตพร้อมกับการจำหน่ายที่ยั่งยืน สี่คือต้องส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดให้สถานประกอบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตและแปรรูปสินค้าการเกษตร”

การเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในจังหวัดเซินลากำลังมีการพัฒนาอย่างน่ายินดี โดยเกษตรกรและสถานประกอบการแต่ละแห่งในจังหวัดฯกำลังร่วมมือกับทางการท้องถิ่นเพื่อมุ่งมั่นพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษอย่างยั่งยืนเพื่อสุขภาพของผู้บริโภค.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด