นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบท (Van Giang)

ในสภาวการณ์ที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อเศรษฐกิจเวียดนามในตลอด 2 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการเกษตรได้เป็นเสาหลักช่วยให้เศรษฐกิจเวียดนามฟันฝ่าอุปสรรคที่ยากลำบากที่สุดนี้และในปี 2022 นี้ถือเป็นปีที่มีความหมายพิเศษต่ออุตสาหกรรมการเกษตร สร้างพื้นฐานเพื่อปฏิบัติเป้าหมาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 10 ปีในระหว่างปี 2021-2030 และแผนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในระยะ 5 ปีในระหว่างปี 2021-2025 ซึ่งทั้งหน่วยงานจะเน้นปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานอย่างเข้มแข็งตามแนวทางเพิ่มมูลค่าและพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขยายตัวและสร้างสรรค์ชนบทใหม่เพื่อมุ่งสู่การสร้างสรรค์ระบบ “เศรษฐกิจเชิงนิเวศ ชนบทที่ทันสมัยและเกษตรที่มีอารยธรรม”  เพื่อมีส่วนร่วมต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม ในปี 2022 นี้ หน่วยงานการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ตั้งเป้าหมายผลิตธัญพืช 48.3 ล้านตัน ส่วนนายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้มอบหมายหน้าที่และมีความเชื่อมั่นว่า การส่งออกของผลิตภัณฑ์การเกษตรในปี 2022 จะบรรลุกว่า 5 หมื่นพันล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เมื่อเร็วๆนี้ กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้ประกาศยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรและชนบทอย่างยั่งยืนระยะปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 นาย เหงียนวันเหวียด อธิบดีกรมวางแผนได้เผยว่า นี่เป็นครั้งแรกที่อุตสาหกรรมการเกษตรมียุทธศาสตร์ร่วม โดยกล่าวว่า “ถ้าหากกระทรวง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและท้องถิ่นต่างๆไม่เข้าร่วม ยุทธศาสตร์นี้ก็จะเป็นแค่แผนการเท่านั้นเพราะว่า กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทไม่สามารถทำเองได้ นี่คือความคิดใหม่โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือยุทธศาสตร์นี้มีส่วนเกี่ยวข้องถึงกระทรวงและหน่วยงานหลายแห่ง โดยเฉพาะในด้านกลไกและนโยบาย ดังนั้น กระทรวงต่างๆ เช่น กระทรวงวางแผนและการลงทุน กระทรวงการคลัง กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงแรงงาน ทหารทุพพลภาพและสังคมและธนาคารชาติเวียดนามต้องมีแผนการตรวจสอบทุกกลไกนโยบายเพื่อยื่นเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามชี้นำให้ทางการทุกระดับปฏิบัติยุทธศาสตร์นี้”
ในการยืนยันเกี่ยวกับการแปรยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรให้ทันสมัยและยั่งยืน นาย เลมิงฮวาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้เผยว่า ยุทธศาสตร์นี้จะช่วยปฏิรูประบบการเกษตรและชนบทอย่างรอบด้าน โดยอุตสาหกรรมการเกษตรจะมุ่งสู่การเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและเกษตรกรรมเชิงนิเวศ โดยประยุกต์ใช้โครงการและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างพร้อมเพรียง ใช้วัตถุดิบอย่างเหมาะสมและประหยัด ใช้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ พร้อมทั้งปรับปรุงโครงสร้างการผลิตที่เชื่อมโยงกับความได้เปรียบในการแข่งขันและความต้องการของตลาด รัฐมนตรี เลมิงฮวาน ย้ำว่า “หวังว่า ยุทธศาสตร์นี้จะได้รับการประชาสัมพันธ์จากสื่อมวลชนเพื่อช่วยให้ผู้บริหาร ประชาชนและสังคมมีความตระหนักได้ดีเกี่ยวกับบทบาท สถานะและภารกิจของการเกษตร ชนบทและเกษตรกร บางช่วง อุตสาหกรรมการเกษตรมีการขยายตัวต่ำและเต็มไปด้วยความเสี่ยงแต่ถ้าหากมองแต่ตัวเลข เราอาจไม่ให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการเกษตร ยุทธศาสตร์ครั้งนี้จะช่วยยืนยันว่า ถึงแม้มีส่วนร่วมไม่มากนักแต่การเกษตรก็มีบทบาทและสถานะที่สำคัญเป็นอย่างมากในการปรับความมีเสถียรภาพของสังคมเพราะว่า ประชากรเวียดนามกว่าร้อยละ 60 เป็นเกษตรกรและกำลังอยู่อาศัยในเขตชนบท”
ยุทธศาสตร์พัฒนาการเกษตรและชนบทอย่างยั่งยืนช่วงปี 2021-2030 วิสัยทัศน์ถึงปี 2050 ได้ตั้งเป้าหมายที่เป็นรูปธรรมว่า ถึงปี 2030 อัตราการขยายตัวจีดีพีของอุตสาหกรรมการเกษตรต้องบรรลุเฉลี่ยร้อยละ 2.5-3 ต่อปี รายได้ของประชากรในเขตชนบทเพิ่มขึ้น 2.5- 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2020 อัตราครอบครัวที่ยากจนหลายมิติในเขตชนบทลดลงเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 1 – 1.5 ต่อปี ถึงปี 2050 เวียดนามพยายามพัฒนาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอุตสาหกรรมการเกษตรชั้นนำของโลกด้วยอุตสาหกรรมการเกษตรแปรรูปที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ในเขตชนบทเวียดนามจะไม่มีครอบครัวยากจนและเป็นเขตที่น่าอยู่ มีอารยธรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสวยงาม.