ยกระดับคุณภาพของสินค้าเวียดนามเพื่อดึงดูดความนิยมของผู้บริโภคภายในประเทศ

(VOVWORLD) - ในหลายปีมานี้ ถึงแม้ต้องแข่งขันอย่างหนักกับสินค้านำเข้าแต่สินค้าเวียดนามนับวันได้รับความนิยมมากขึ้นเนื่องจากมีคุณภาพดี การออกแบบสวยงามและราคาย่อมเยา ซึ่งสามารถยืนยันสถานะในตลาดภายในประเทศได้

ยกระดับคุณภาพของสินค้าเวียดนามเพื่อดึงดูดความนิยมของผู้บริโภคภายในประเทศ - ảnh 1สินค้าเวียดนามมีความได้เปรียบต่างๆ เช่น มีคุณภาพดีไม่แพ้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง (VNA)


ปัจจุบันนี้ มีสถานประกอบการเวียดนามหลายแห่งได้หันมาเจาะตลาดผู้บริโภคภายในประเทศ โดยการยกระดับคุณภาพ รูปแบบ ลดต้นทุนการผลิตและพัฒนาบริการหลังการขายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ปัจจุบันนี้ ถ้าหากเปรียบเทียบกับสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ สามารถกล่าวได้ว่าสินค้าเวียดนามก็ดีไม่แพ้กันและเหมาะกับรสนิยมของคนเวียดนามมากขึ้น ส่วนการออกแบบก็มีความหลากหลายและราคาย่อมเยากว่า เรามีความเชื่อมั่นต่อความนิยมใช้สินค้าเวียดนาม

คุณภาพของสินค้าเวียดนามได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นและมีความหลากหลายในด้านรูปแบบ มีราคาที่ย่อมเยา ผมเองก็ให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนามเพราะสอดคล้องกับความต้องการทั้งรูปแบบและราคา”

ฉันชอบใช้สินค้าเวียดนามมากกว่า เพราะปัจจุบันสินค้าเวียดนามมีความได้เปรียบต่างๆ เช่น มีคุณภาพดีไม่แพ้สินค้านำเข้าจากต่างประเทศที่มีราคาแพง

ปัจจุบันนี้ มีสินค้าเวียดนามหลายอย่างสามารถครองส่วนแบ่งในตลาดได้ โดยบางรายการได้กลายเป็นความภาคภูมิใจของคนเวียดนาม เช่น นม Vinamilk ชาเตินเกือง รถยนต์ไฟฟ้า Vinfast รังนกนางแอ่น Sanvinest แค้งหว่า เป็นต้น

ยกระดับคุณภาพของสินค้าเวียดนามเพื่อดึงดูดความนิยมของผู้บริโภคภายในประเทศ - ảnh 2นางด่าวทวี้ห่า รองผู้อำนวยการของบริษัท Traphaco (baodautu.vn)

นอกจากพัฒนาการประกอบธุรกิจและสร้างรายได้มากขึ้น สถานประกอบการเวียดนามหลายแห่งยังเลือกการพัฒนาแบบยั่งยืน อนุรักษ์ระบบนิเวศที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากล เช่น ผลิตภัณฑ์ของบริษัทหุ้นส่วนเภสัชภัณฑ์ Traphaco ซึ่งเป็นบริษัทเภสัชภัณฑ์ชั้นนำของเวียดนาม นางด่าวทวี้ห่า รองผู้อำนวยการของบริษัทฯ เผยว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของบริษัทได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเวียดนามเป็นจำนวนมากเนื่องจากมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค

“ทางบริษัทฯ เน้นพัฒนาการผลิตเภสัชภัณฑ์โดยใช้แหล่งวัตถุดิบสมุนไพรที่มีความยั่งยืนและมีคุณภาพสูงผ่านห่วงโซ่มูลค่าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้เทคโนโลยีแห่งสีเขียวที่ทันสมัยในการผลิตเพื่อ สร้างสรรค์เขตปลุกสมุนไพรตามมาตรฐานจีเอซีพีขององค์การอนามัยโลก การปลูกสมุนไพรที่ปลอดภัย ช่วยให้เกษตรกรและสถานประกอบการปฏิบัติตามขั้นตอนการพัฒนายาสมุนไพรที่ปลอดภัย”

ตามข้อมูลสถิติจากคณะกรรมการชี้นำการรณรงค์ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม ผู้บริโภคนับวันซื้อสินค้าเวียดนามเพิ่มมากขึ้นและมีผู้บริโภคกว่าร้อยละ 90 เลือกใช้สินค้าเวียดนามเป็นอันดับแรก ส่วนผู้บริโภคร้อยละ 75 ชักชวนให้สมาชิกในครอบครัวและเพื่อนซื้อสินค้าเวียดนาม ปัจจุบันนี้ สินค้าเวียดนามครองส่วนแบ่งภายในประเทศกว่าร้อยละ 90 โดยสถานประกอบการหลายแห่งตระหนักได้ดีเกี่ยวกับการสร้างสรรค์เครื่องหมายการค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของแนวโน้มการบริโภค ช่วยให้สินค้าเวียดนามกลายเป็นความภาคภูมิใจของการผลิตภายในประเทศและของประชาชาติ นาง มายถิถวี่ ประธานสมาคมนักธุรกิจหญิงขนาดกลางและขนาดย่อมกรุงฮานอยเผยว่า

“ สถานประกอบการเวียดนามสามารถตอบสนองความต้องการในการออกแบบ บรรจุภัณฑ์และคุณภาพเพื่อดึงดูดความนิยมของผู้บริโภคที่นิยมใช้สินค้านำเข้าให้หันมาใช้สินค้าเวียดนาม แต่เพื่อทำได้เรื่องนี้ สถานประกอบการเวียดนามก็ต้องพยายามมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและช่วยให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับการใช้สินค้าเวียดนามอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

สินค้าเวียดนามนับวันสามารถครองใจของผู้บริโภคได้มากขึ้น โดยจากการให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนาม ถึงขณะนี้ผู้บริโภคก็รู้สึกภูมิใจที่ใช้สินค้าเวียดนาม แต่เพื่อส่งเสริมผลสำเร็จดังกล่าว นายโด๋วันเชี้ยน ประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนาม หัวหน้าคณะกรรมการชี้นำส่วนกลางเกี่ยวกับการรณรงค์ชาวเวียดนามให้ความสนใจใช้สินค้าเวียดนามแสดงความคิดเห็นว่า

“ในระยะยาว จำเป็นต้องผลักดันการเปลี่ยนแปลงใหม่นวัตกรรม เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเพื่อสามารถผลิตสินค้าเวียดนามที่มีคุณภาพ มีการออกแบบที่สวยงามและราคาย่อมเยา เหมาะกับรสนิยมของคนเวียดนามและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2 คือ ต้องมีนโยบายที่สอดคล้องกับกฎหมายสากล แต่ก็ต้องสามารถกระตุ้นการผลิตและการบริโภคภายในประเทศได้”

ตลาดภายในประเทศมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน โดยกำลังการซื้อนับวันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถือเป็นโอกาสให้สถานประกอบการและผู้ผลิตภายในประเทศยกระดับคุณภาพของสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพิ่มการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อดึงดูดความนิยมของผู้บริโภคเวียดนามมากขึ้นและบรรลุเป้าหมายคือ ถึงปี 2030 สินค้าเวียดนามสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้กว่าร้อยละ 85 ในช่องทางจำหน่ายต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตและระบบอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น ตามแผนการที่นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้วางไว้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด