รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของเวียดนามในปี 2020

(VOVWORLD) - ปี 2019 แม้ต้องเผชิญความท้าทายต่างๆจากภายนอก แต่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนามยังคงบรรลุร้อยละ 7.02 ติดกลุ่มประเทศที่มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในโลกและสามารถรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ส่วนสำหรับปี 2020 นี้ได้มีการคาดการณ์ว่า สถานการณ์โลกยังมีอุปสรรคต่างๆ รัฐบาลเวียดนามได้กำหนดว่า หน้าที่ที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆในปี 2020 ของเวียดนาม คือ การรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค
รักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของเวียดนามในปี 2020 - ảnh 1

ในการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามเมื่อเร็วๆนี้ นาย เวืองดิ่งเหวะ รองนายกรัฐมนตรีได้คาดการณ์ว่า สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกในปี 2020 จะมีความผันผวนอย่างซับซ้อนต่อไปและยากที่จะคาดเดาได้ จึงสร้างความท้าทายให้แก่การขยายตัวของเศรษฐกิจเวียดนาม ดังนั้น เป้าหมายอันดับหนึ่งของเวียดนามในปีนี้คือการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค รองนายกรัฐมนตรี เวืองดิ่งเหวะย้ำว่า            “มีสองปัญหาใหญ่ที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคและสภาแห่งชาติได้ระบุในมติฉบับต่างๆและในการบริหารของรัฐบาลที่นายกรัฐมนตรีเหงียนซวนฟุ๊กมักจะย้ำถึงคือ ต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆถึงการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค สองคือต้องอำนวยความสะดวกให้แก่แหล่งพลังทุกแหล่ง ซึ่งสองปัญหานี้สนับสนุนกัน เพราะว่า อัตราการขยายตัวสูงก็เป็นหนึ่งในเงื่อนไขเพื่อทำให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพแต่เศรษฐกิจมหภาคก็เป็นปัญหาที่สำคัญเพื่อเป็นพื้นฐานให้ประเทศพัฒนาอย่างรวดเร็วตามแนวทางที่ยั่งยืนและมีเสถียรภาพ”

ปี 2019 คือปีที่ 3 ติดต่อกันที่เวียดนามเสร็จสิ้นทั้ง 12 เป้าหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมที่สภาแห่งชาติกำหนด รวมทั้งมี 5 มาตรฐานที่บรรลุเป้าหมายสูงกว่าแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะอัตราการขยายตัวอยู่ที่กว่าร้อยละ 7 ซึ่งเป็นอัตราที่สูงที่สุดของภูมิภาคและโลก สูงกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับอัตรการขยายตัวเฉลี่ยของโลก โดยเฉพาะในขณะที่เศรษฐกิจของหลายประเทศชะลอตัวหรือติดลบ ควบคู่กันนั้น เวียดนามก็สามารถควบคุมภาวะเงินเฟ้อให้ต่ำกว่าร้อยละ 3 ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขที่สภาแห่งชาติได้กำหนด

บรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเห็นว่า ผลสำเร็จด้านเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาคือพื้นฐานและพลังขับเคลื่อนที่สำคัญให้แก่การขยายตัวของปี 2020 โดยเฉพาะในขณะที่เวียดนามดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนและสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 ซึ่งอำนวยความสะดวกให้เวียดนามบรรลุอัตราการขยายตัวในระดับสูงและค้ำประกันเป้าหมายรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ นาย เหงียนมิงห์ฟอง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจให้ข้อสังเกตว่า            “ในปี 2020 เศรษฐกิจเวียดนามและโลกจะมีการขยายตัวสูงขึ้นเพราะว่าความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนลดลง ส่งผลให้มีการเพิ่มการลงทุนและความเชื่อมั่นต่อตลาด สองคือ ในไตรมาสที่สองของปี 2020 จะมีการลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนการลงทุนในทั่วภูมิภาค สามคือเสถียรภาพในการผลิตและประกอบธุรกิจของสถานประกอบการทั้งในเวียดนามและภูมิภาคที่ทำการย้ายฐานผลิตเมื่อปี 2019 เนื่องจากสงครามการค้าสหรัฐ – จีน นอกจากนั้น ปี 2020 จะเป็นปีของการเตรียมความพร้อมให้แก่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรค ดังนั้น การปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจจะได้รับการปฏิบัติอย่างเข้มแข็ง ซึ่งล้วนเป็นพื้นฐานที่สำคัญ”

ส่วนผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ เกิ๊นวันหลึกแสดงความคิดเห็นว่า            “ในปี 2020 จะมีพลังขับเคลื่อนให้แก่การขยายตัวใน 3 ด้าน หนึ่งคือ การส่งออกจะอยู่ในระดับค่อนค่างสูงต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 สองคือ การลงทุนจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอจะเป็นจุดเด่นต่อไปเนื่องจากการยกย้ายเงินลงทุน โดยเฉพาะจากฮ่องกงและจีนมายังเวียดนามที่จะเพิ่มมากขึ้น สามคือเศรษฐกิจภาคเอกชนที่มีเงินลงทุนในระดับประมาณร้อยละ 17 ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะได้รับการควบคุมให้อยู่ในระดับร้อยละ 3.2-3.5”

ในความเป็นจริง การรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคเป็นเป้าหมายของรัฐบาลเวียดนามที่กำหนดไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีมาก่อน ซึ่งในการกล่าวปราศรัยในการประชุมรัฐบาลประจำเดือนกรกฎาคมปี 2018 นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุ๊ก ได้ย้ำว่า “เป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันคือการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค ควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ปรับปรุงความไว้วางใจต่อตลาด สังคมและสถานประกอบการ”

เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ของปี 2020 นับตั้งแต่ต้นปี รัฐบาลได้ประกาศมติสำคัญ 2 ฉบับที่กำชับและบริหารการปฏิบัติแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ – สังคมและงบประมาณแผ่นดินปี 2020 หน้าที่และมาตรการแก้ไขเพื่อปรับปรุงบรรยากาศการประกอบธุรกิจ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่งมติสองฉบับนี้ถือเป็นเสาหลักในการชี้นำและบริหารอย่างสมบูรณ์ของรัฐบาล

ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญแสดงความเชื่อมั่นว่า ด้วยความมุ่งมั่นทางการเมืองในระดับสูง ความพยายามและการปฏิบัติอย่างเข้มแข็งของรัฐบาลและหน่วยงานทุกระดับ บวกกับการเข้าร่วมของทั้งสังคม เวียดนามจะสามารถบรรลุเป้าหมายรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคและยกระดับสถานะของเศรษฐกิจเวียดนามบนเวทีโลกได้อย่างแน่นอน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด