ปลาทูน่าครีบเหลืองคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์เพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น

ในเดือนกุมภาพันธ์ การส่งออกข้าวของเวียดนามบรรลุ 369,000 ตัน คิดเป็นมูลค่า 179 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ช่วยให้การส่งออกข้าวของเวียดนามในสองเดือนแรกของปี 2018 อยู่ที่ 861,000 ตัน รวมมูลค่า 419 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ในด้านปริมาณและร้อยละ 34 ในด้านมูลค่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2017 ส่วนการส่งออกสินค้าเกษตรอื่นๆ เช่น กาแฟ ชา มะม่วงหิมพานต์ ผัก ผลไม้และมันสำปะหลัง ก็ขยายตัวทั้งในด้านปริมาณและมูลค่าเช่นกัน เช่น มูลค่าการส่งออกมะม่วงหิมพานต์อยู่ที่ 555 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 95 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผักและผลไม้มีการขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 59 รวมมูลค่า 672 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนมูลค่าการส่งออกสัตว์น้ำแช่แข็งไปยังประเทศแคนาดา สหรัฐและอียูในเดือนแรกของปีนี้ก็บรรลุ 590,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ในรายงานเกี่ยวกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกของไอเอ็มเอฟระบุว่า หลังจากได้บรรลุอัตราการขยายตัวสูงกว่าที่คาดหวังในปี 2017 มีความเป็นไปได้สูงที่การขยายตัวในปีนี้ของเศรษฐกิจโลกจะอยู่ที่ร้อยละ 3 ซึ่งจะส่งผลให้การส่งออกสินค้าต่างๆ รวมทั้งสินค้าการเกษตร ป่าไม้และสัตว์น้ำอยู่ในระดับสูง การที่เวียดนามได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกหรือซีพีทีพีพีจะเอื้อประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่หน่วยงานต่างๆ เช่น สิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า การแปรรูปสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์การเกษตร เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มมูลค่าการส่งออกและขยายการส่งออกไปยังประเทศสมาชิกซีพีทีพีพีและตลาดที่เข้มงวดต่างๆ เช่น สหรัฐ สาธารณรัฐเกาหลีและอียู เวียดนามต้องตระหนักได้ดีถึงแนวโน้มการบริโภค โดยเฉพาะมาตรฐานที่เข้มงวดในด้านคุณภาพและควรลดเวลาการเจรจาให้น้อยลง ยกตัวอย่างเช่น ลิ้นจี่ของเวียดนามต้องใช้เวลาการเจรจาถึง 12 ปีเพื่อเจาะตลาดออสเตรเลีย ดังนั้นนอกจากความพยายามของผู้ผลิตและสถานประกอบการส่งออกแล้ว การส่งเสริมการค้าก็ควรพัฒนาประสิทธิภาพให้มากขึ้น นางเหงียนหว่างทวี้ อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการพาณิชย์เวียดนามประจำออสเตรเลียแสดงความคิดเห็นว่า            “ดิฉันมีความประสงค์ที่จะได้รับข้อมูลจากประเทศเวียดนามเกี่ยวกับกระบวนการเปิดตลาด และเมื่อคณะผู้แทนของกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทไปหารือเจรจากับหุ้นส่วนเกี่ยวกับปัญหาการค้า การส่งออกสินค้าเกษตรและสัตว์น้ำ ก็ขอให้ฝ่ายพาณิชย์ของเราเข้าร่วมด้วย”

ในแผนปฏิรูปหน่วยงานเกษตรเวียดนามระยะปี 2017-2020 กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทได้กำหนดว่า การยกระดับผลผลิต คุณภาพ ประสิทธิภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าเกษตรต้องสอดคล้องกับการบริโภคและการมุ่งสู่เศรษฐกิจที่ทันสมัย มีมูลค่าสูงและพัฒนาอย่างยั่งยืนในห่วงโซ่มูลค่าของสินค้าเกษตรโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเหงียนซวนเกื่องระบุว่า            “ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงและหน่วยงานภายในประเทศกับสำนักงานที่เป็นตัวแทนฝ่ายพาณิชย์ของเวียดนามในต่างประเทศในการส่งออกเพื่อแก้ไขอุปสรรคและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรของเวียดนามไปยังตลาดต่างๆทั่วโลก”

ขณะนี้ สินค้าเกษตรของเวียดนามถูกส่งออกไปยัง 180 ประเทศและเป็น 1 ใน 15 ประเทศส่งออกสินค้าเกษตรรายใหญ่ของโลก ในปี 2018 นี้ กระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามตั้งเป้าไว้ว่า จะเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้ถึง 4 หมื่นล้าน – 4 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น มูลค่าการส่งออกพืชผลจะอยู่ที่ 2 หมื่น 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สัตว์น้ำอยู่ที่ 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลิตภัณฑ์จากป่าไม้อยู่ที่กว่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและผลิตภัณฑ์อื่นๆอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ.