อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลเวียดนามผลักดันยุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่ทันสมัยในปี๒๐๒๐(Photo:Internet)

ปัจจุบัน เวียดนามมีสถานประกอบการเครื่องจักรกล๓๑๐๐แห่งโดยเป็นสถานประกอบการภาครัฐ๔๕๐แห่ง สถานประกอบการภาคเอกชน๑๕๖แห่ง ส่วนที่เหลือคือสถานประกอบการขนาดเล็ก  สถานประกอบการเครื่องจักรกลส่วนใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงฮานอยและนครโฮจิมินห์ซึ่งครึ่งหนึ่งทำการผลิต และประกอบติดตั้ง ส่วนอีกครึ่งทำการซ่อมบำรุง  สำหรับยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือFDIในภาคอุตสาหกรรมนี้ประมาณ๒พัน๑๐๐ล้านเหรียญสหรัฐซึ่งกว่าครึ่งหนึ่งลงทุนในด้านการประกอบรถยนต์และจักรยานยนต์และสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งแต่ปี๒๐๐๒ เวียดนามได้จัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาหน่วยงานเครื่องจักรกลโดยมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการประกอบรถยนต์และจักรยานยนต์ภายในประเทศซึ่งในปี๒๐๑๐ได้บรรลุอัตราการขยายตัวร้อยละ๕๐ แต่ก็ยังไม่บรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและอีกสาเหตุสำคัญคือ สถานประกอบการจำนวนมากไม่ได้รับการลงทุนอย่างเหมาะสมทั้งในด้านเงินทุนและเทคโนโลยีจึงยากที่จะแข่งขันกับนักประมูลต่างชาติได้และเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องนี้ ในหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีนโยบายต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการเครื่องจักรกลเวียดนามพัฒนาด้านที่สำคัญต่างๆโดยให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆในการพัฒนาอุตสากรรมผลิตประกอบ เครื่องจักรเพื่อการผลิต เพื่อช่วยให้สถานประกอบการสะสมเงินทุน ประสบการณ์ ประยุกต์ใช้เทคโนโลนีที่ทันสมัยและเข้าถึงความรู้ระดับโลกเพื่อสามารถมีส่วนร่วมในตลาดโลกได้  วิสาหกิจเครื่องจักรกลQuang Trung ที่จังหวัดNinh Bình ที่เคยเป็นสถานประกอบการเครื่องจักรชั้นนำที่สามารถผลิตสินค้าทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศได้๑๓รายการแต่ใน๒ปีที่ผ่านมา วิสาหกิจต้องประสบปัญหาสินค้าค้างสต๊อกนับร้อยตันและในขณะที่กำลังรอนโยบายใหม่ๆของรัฐบาล สถานประกอบการนี้ได้จัดทำแนวทางเฉพาะของตน นายNguyễn Tăng Cường ผู้จัดการวิสาหกิจเครื่องจักรกลQuang Trung เผยว่า “ถ้าพวกเรามองแต่เฉพาะตลาดภายในประเทศปัจจุบัน พวกเราจะไม่กล้าประกอบธุรกิจต่อไป ดังนั้นพวกเราจึงคิดว่า ต้องส่งออกสินค้าไปขายยังต่างประเทศ”  
ในสถานการณ์ที่ลำบาก สถานประกอบการเครื่องจักรกลจำนวนมากได้ร่วมมือกับหุ้นส่วนต่างประเทศเพื่อรับประกอบติดตั้ง รับจ้างผลิต เน้นผลิตอุปกรณ์เฉพาะด้านและอุปกรณ์แบบสำเร็จรูปซึ่งก็ได้รับความไว้วางใจและได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากหุ้นส่วนต่างประเทศจนสามารถกลายเป็นหุ้นส่วนระยะยาวที่สามารถผลิตสินค้าป้อนตลาดโลกได้ นอกจากนี้กระบวนการนี้ก็ช่วยให้สถานประกอบการผลัดดันความร่วมมือทางวิชาชีพ  นายNguyễn Văn Thụ ประธานสมาพันธ์สถานประกอบการเครื่องจักรกลเวียดนามเผยว่า “ใน๕ปีที่ผ่านมา สถานประกอบการหลายแห่งมีอัตราการขยายตัวตั้งแต่ร้อยละ๒๐ถึงร้อยละ๒๕และในสถานการณ์ที่ลำบากปัจจุบัน สถานประกอบการจำนวนมากได้ลงทุนนับแสนล้านด่งเพื่อรับจ้างเครื่องจักรที่ต้องใช้ความแม่นยำจากบริษัทต่างประเทศซึ่งได้รับความไว้วางใจ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และมีใบสั่งซื้อเพิ่มขึ้นเพราะสถานประกอบการเหล่านี้สามารถผลิตสินค้าที่สถานประกอบการต่างชาติเคยผลิตเมื่อก่อนนี้ซึ่งสิ่งนี้ก็ช่วยให้สถานประกอบการมีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง”    เพื่อให้ความช่วยเหลือสถานประกอบการ รัฐบาลยังวางมาตรการที่เป็นรูปธรรมต่างๆ เช่น ระเบียบการเกี่ยวกับใบสั่งซื้อสินค้า นโยบายให้สิทธิพิเศษในการกู้เงินทุน ให้ความช่วยเหลือกลุ่มสถานประกอบการเอกชนเปลี่ยนมาระยะพัฒนาใหม่ นายĐỗ Hữu Hàoอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามกล่าวว่า “ในนโยบายของนายกรัฐมนตรีมีการพิจารณากรณีพิเศษคือแต่งตั้งนักประมูลซึ่งได้ประสบความสำเร็จเป็นที่น่ายินดี เช่นประมูลด้านเครื่องจักรกลสำหรับผลิตสินค้าหัตถกรรม  โครงการบางแห่ง เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำSon Laซึ่งแสดงให้เห็นว่า สถานประกอบการภายในประเทศสามารถทำได้ และสถานประกอบการส่วนใหญ่มีเงินทุนแต่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีดังนั้นถ้าไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรม แทบทุกโครการจะตกเข้าอยู่ในมือของนักประมูลต่างชาติ”  
 ยุทธศาสตร์ลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลในอนาคตจะเน้นพัฒนา๘กลุ่มผลิตภัณฑ์สำคัญ เช่น  อุปกรณ์สำเร็จ เครื่องจักรกลเพื่อการเกษตร ยานพาหนะ  เครื่องจักรเพื่อการก่อสร้าง การต่อเรือ และอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น นอกจากนโยบายให้สิทธิพิเศษด้านเงินทุนแล้ว รัฐบาลยังมีแนวทางผลักดันการผลิตเครื่องจักรกลภายในประเทศเพื่อป้อนให้แก่โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน สะพาน ท่าเรือและโครงการก่อสร้างที่สถานประกอบการเครื่องจักรกลภายในประเทศสามารถตอบสนองได้ซึ่งการกำหนดแนวทางที่เป็นรูปธรรมนี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาตลาดสินค้าเครื่องจักรกลเท่านั้นหากยังสร้างโอกาสให้ภาคอุตสาหกรรมนี้สามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยื่น./.