เตินก๋างไซ่ง่อนพยายามยืนยันชื่อเสียงของท่าเรือเวียดนาม

(VOVWORLD) -จากผลสำเร็จที่น่ายินดีในปีที่ผ่านมา ปี 2020นี้ เครือบริษัท เตินก๋างไซ่ง่อน ตั้งเป้าไว้ว่า จะพยายามเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อติดอันดับที่ 20 ในรายชื่อกลุ่มท่าเรือคอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเป็นการยืนยันชื่อเสียงของท่าเรือเวียดนาม

เตินก๋างไซ่ง่อนพยายามยืนยันชื่อเสียงของท่าเรือเวียดนาม - ảnh 1

ในหลายวันมานี้ รถบรรทุกตู้เตอร์คอนเทนเนอร์ได้เข้าคิวยาวที่หน้าประตูบีก๊าดล๊าด ของเครือบริษัทเตินก๋างไซ่ง่อนเพื่อเข้าท่าเรือรับสินค้าในขณะที่รถเครนกำลังเร่งทำงานอย่างเต็มที่ ผู้บริหารเครือบริษัทฯเผยว่า แรงงานของบริษัทแบ่งการทำงานเป็น 3 กะเพื่อสามารถขนถ่ายสินค้าที่มีจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว อย่างเช่น ขนถ่ายสินค้าให้แก่เรือขนาดใหญ่ 55 ลำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรือต่างชาติ ส่วนที่ศูนย์ให้บริการโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ในแต่ละวันมีผู้เข้าคิวทำระเบียบการจำนวนมากและบรรยากาศการทำงานมีความคึกคักเป็นอย่างยิ่ง นาง โห่หวิ่งแทงหั่ง รองผู้อำนวยการศูนย์โลจิสติกส์ยืนยันว่า จากการมีรถบรรทุก และเรือขนส่งสินค้ากว่า 700 ลำทั้งในประเทศเวียดนาม ลาวและกัมพูชา บวกกับความสามารถในการบริหาร ความคล่องตัวและการพัฒนาบุคลากรในศูนย์ฯ เราก็พร้อมขยายตลาดในการขนส่งสินค้าได้ดี  “ที่เตินก๋าง มีการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ในปี 2020 นี้ ในฐานะศูนย์โลจิสติกส์ขนาดใหญ่ของประเทศ เราจะพยายามทำให้รายได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปี 2019 ซึ่งก็คาดว่าน่าจะอยู่ที่ร้อยละ 10”

ปี 2019 ปริมาณคอนเทนเนอร์ที่ขนถ่ายผ่านท่าเรือของเครือบริษัทเตินก๋างไซ่ง่อนได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.2 เลื่อนขึ้น 1 อันดับในรายชื่อท่าเรือที่มีคอนเทนเนอร์ขนถ่ายมากที่สุดในโลก โดยเฉพาะท่าเรือเตินก๋าง – ก๊าดล้าย ซึ่งเป็น “หัวใจ” ในระบบท่าเรือของเครือบริษัทได้มีการขนถ่ายคอนเทนเนอร์ TEU ตู้ที่ 5 ล้านเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งสามารถเก็บภาษีให้แก่ท่าเทียบได้กว่า 70ล้านล้านด่ง คิดเป็นร้อยละ 18.6 ของบประมาณของนครโฮจิมินห์ในปี 2019

จากผลงานที่ได้บรรลุในเวลาที่ผ่านมา เครือบริษัทเตินก๋างไซ่ง่อนได้ตั้งใจเปลี่ยนแปลงใหม่ตามแนวทางที่นับวันมีความคล่องตัวและมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น โดยเน้นประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการรับสินค้าและแก้ไขปัญหารถติดนอกท่าเรือ พร้อมทั้งยืนยันชื่อเสียงของบริษัทในการเป็นผู้ให้บริการท่าเรือคอนเทนเนอร์ชั้นนำของเวียดนาม วิศวกร เจิ่นหงอกติ่ง หัวหน้าหน่วยของท่าเรือก๊าดล้ายยืนยันว่า     “ในช่วงก่อน ลูกค้าต้องมาทำระเบียบการยื่นเอกสารแต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้ว ทุกคนสามารถใช้สมาร์ทโฟนในการทำระเบียบการออนไลน์ ลดเวลาการจอดของเรือ มีส่วนร่วมเปลี่ยนความคุ้นเคยของลูกค้าและเพิ่มปริมาณการขนถ่ายสินค้าที่ท่าเรือก๊าดล้าย”

จากการเติบโตในตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ทางเครือบริษัทฯได้พัฒนาเป็นศูนย์โลจิสติกที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีส่วนแบ่งตลาดในการให้บริการต่างๆ เช่น การขนถ่ายสินค้า โลจิสติก การบริการการเดินเรือ การกู้ภัย อสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้างอาคารพานิชย์และอาคารสำหรับทหาร เป็นต้น ถึงร้อยละ 90 ของภาคเหนือและร้อยละ 50 ของทั้งประเทศ ควบคู่กันนั้น ทางบริษัทยังให้ความสนใจสนับสนุนงานด้านกลาโหมเพื่อรักษาความปลอดภัยของน่านฟ้าและน่านน้ำของประเทศ.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด