(VOVworld) – เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงเป็นที่ตั้งของ 13 จังหวัดและนคร มีสถานะทางภูมิศาสตร์สำคัญในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนาม เพราะเป็นเขตผลิตการเกษตรและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เพื่อส่งเสริมศักยภาพและจุดแข็งของภูมิภาค ตลอดจนยกระดับประสิทธิภาพ คุณภาพการขยายตัวและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต้องมีแนวทางใหม่เพื่อค้ำประกันการพัฒนาและกลายเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีสถานะทางภูมิศาสตร์สำคัญในยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจสังคมของเวียดนาม

ในกระบวนการพัฒนาและการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ปัญหาหลักที่ต้องแก้ไขคือการค้ำประกันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมและการผสมผสานที่กว้างลึกกับเศรษฐกิจโลกโดยต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ มีการอนุรักธรรมชาติและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนั้น หัวข้อของฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงหรือ MDEC ปีนี้คือ “เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมุ่งสู่เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”โดย“เศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” คือการมุ่งสู่อนาคตที่ปลอดมลพิษ การขยายตัวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศ พัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะยกระดับจิตสำนึกเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าของสินค้าเกษตรในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งนี่คือแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงใช้ศักยภาพและจุดแข็งของตนอย่างเต็มที่ตามแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็เป็นอีกประเด็นที่สำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ค้ำประกันการพัฒนาเศรษฐกิจที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติยุทธศาสตร์แห่งชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโดยเป้าหมายของการขยายตัวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมคือเพื่อมนุษย์ มีส่วนร่วมสร้างงานทำ แก้ปัญหาความยากจน ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้ดีขึ้น นาย หวอแถ่งโท้ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนนครเกิ่นเทอได้เผยว่า“นครเกิ่นเทอจะปฏิบัติการพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งใน 4 ด้านต่อไปโดยในด้านการเกษตร ธำรงการปฏิบัติโครงการพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่เพื่อขยายขอบเขตการปฏิบัติ นอกจากนั้น ทางจังหวัดยังเรียกการลงทุนเข้าในการปฏิบัติโครงการการเกษตรเทคโนโลยีขั้นสูง 3 โครงการในท้องถิ่น อีกทั้งวิจัยโครงการพัฒนาพันธุ์พืชให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ”

บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง

ปัญหาสวัสดิการสังคมของเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงปี 2013 คือเนื้อหาใหญ่ที่ถูกย้ำถึงในฟอรั่มปีนี้ ในสภาวะการณ์ที่เศรษฐกิจยังคงต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายแต่ได้รณรงค์และเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนร่วมต่อการปฏิบัติงานนี้ นาย ด่าวมิงตู๊ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติเวียดนามได้ชี้ชัดว่า“ในสภาวะการณ์ที่ปีนี้เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ธนาคารต่างๆยังตั้งใจแสดงความรับผิดชอบและมีส่วนร่วมต่อโครงการสวัสดิการสังคมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต่อไป อาจกล่าวได้ว่า ถึงแม้เป็นงบของงานด้านสวัสดิการสังคม แต่ต้องบริหารดั่งเช่นโครงการลงทุนเพื่อค้ำประกันความมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยและการยักยอกเงิน”
ประสิทธิภาพของฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงในหลายปีที่ผ่านมาไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็นผ่านตัวเลขและวงเงินอุปถัมภ์เฉพาะหน้าเท่านั้น หากสิ่งที่สำคัญที่สุดคือประสิทธิภาพระยะยาวของโครงการและการดึงดูดการลงทุนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนของภูมิภาค การจัดฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมาแล้ว 6 ครั้ง ได้มีส่วนร่วมสำคัญต่อการพัฒนาของเขตซึ่งจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติแนวทาง มาตรการแก้ไขอุปสรรคของภูมิภาค ดังนั้นการจัดฟอรั่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง-หวิงลอง 2013 จะมีส่วนร่วมยกระดับจิตสำนึกของหน่วยงานและประชาชนในภูมิภาคเกี่ยวกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
สถานประกอบการภายในประเทศนับร้อยแห่งและนักลงทุนต่างชาติที่เข้าร่วมงาน MDEC-หวิงลอง2013ต่างเห็นพ้องกันว่า จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแมน้ำโขงต้องเพิ่มความสมบูรณ์ของรูปแบบการผลิตใหม่ในการเชื่อมโยงการผลิต การจำหน่ายผลิตภัณฑ์และผลักดันการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์โทคโนโลยีที่ทันสมัยในการผลิตเพื่อช่วยให้สินค้ามีขีดความสามราถในการแข่งขันในตลาดโลก นาย เจืองวันซ้าว รองประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดหวิงลองได้แสดงความเห็นว่า“นี่คือโอกาสเพื่อให้จังหวัดต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง รวมทั้งจังหวัดหวิงลองประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตนี้ โดยเฉพาะการพัฒนาที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แทนการเรียกร้องแบบทั่วไป การจัดฟอรั่มครั้งนี้จะสร้างก้าวกระโดดเพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งภายในและต่างประเทศ นอกจากนั้น กระทรวงและหน่วยงานส่วนกลางก็มุ่งสู่การเรียกร้องให้ปฏิบัติตามรูปแบบใหม่”
ฟอรั่มร่วมมือลงทุนเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง- MDEC หวิงลอง2013 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยผลสำเร็จอย่างงดงามโดยจังหวัดและนครต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงได้มอบใบรับรองการลงทุน 126 ฉบับให้แก่โครงการต่างๆรวมยอดเงินลงทุน 7 ล้าน 5 แสนล้านด่งซึ่งเป็นโครงการลงทุนในด้านที่เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมีความต้องการเพื่อพัฒนาศักยภาพ จุดแข็ง สร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในอนาคต./.