ข้อตกลงหุ้นส่วนในทุกด้านและก้าวหน้าภาคพื้นแปซิฟิก หรือ CPTPP

ผลการวิเคราะห์ในเบื้องต้นปรากฎว่า ถึงแม้เวียดนามจะได้รับประโยชน์จากข้อตกลง CPTPP ไม่มากเท่าข้อตกลงทีพีพี แต่ CPTPP จะช่วยสร้างโอกาสความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับเศรษฐกิจรายใหญ่ในภูมิภาคและโลก เช่น การขยายตลาดการส่งออกสินค้าไปยังแคนาดา เม็กซิโก เปรูและชิลี ซึ่งเป็นตลาดที่เวียดนามยังไม่ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านการค้า ส่วนหน่วยงานสิ่งทอและเสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้าและอุตสาหกรรมต่างๆที่ต้องการแรงงานเป็นจำนวนมากก็สามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกมากขึ้น  นาย เหงวียนดิ่งกูง หัวหน้าสถาบันวิจัยการบริหารเศรษฐกิจส่วนกลางได้เผยว่า“แน่นอนว่า การที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงทีพีพีได้สร้างความสูญเสียในบางส่วน แต่เวียดนามยังคงสามารถเจาะตลาดต่างๆได้ เช่น ออสเตรเลียและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหุ้นส่วนการค้ารายใหญ่อันดับ 5 และนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม โดยเฉพาะเวียดนามสามารถส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการไปยังประเทศเหล่านี้ได้”

นอกจากข้อกำหนดที่เอื้อให้แก่การขยายตลาดส่งออกแล้ว ข้อตกลง CPTPP ยังมีข้อกำหนดที่ชัดเจนด้านกฎหมายและการบริหารภาครัฐ ดร.หวอจี๊แถ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจได้เผยว่า การเข้าร่วมข้อตกลง CPTPP จะช่วยสร้างบรรยากาศการแข่งขันและบรรยากาศการลงทุนประกอบธุรกิจที่โปร่งใส ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างพลังขับเคลื่อนให้แก่การพัฒนา แต่ประเทศต่างๆที่เข้าร่วมข้อตกลงฯต้องทำการปฏิรูประเบียบการและปรับปรุงนโยบายต่างๆเพื่อผลักดันการขยายตัวอย่างมีประสิทธิภาพและการพัฒนาอย่างครอบคลุม

ในขณะที่ข้อตกลงทีพีพีจะสร้างเขตการค้าเสรีที่มีมูลค่าการค้าคิดเป็นร้อยละ 30 และจีดีพีคิดเป็นร้อยละ 40 ของจีดีพีโลก  ข้อตกลง CPTPP จะสร้างเขตการค้าเสรีที่มีมูลค่าการค้าคิดเป็น 1 ใน 6 และจีดีพีคิดเป็นร้อยละ 14 ของจีดีพีโลกเท่านั้น แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและสถานประกอบการได้แสดงความเห็นว่า แม้ข้อตกลง CPTPP จะครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่าที่ข้อตกลงทีพีพี แต่เวียดนามก็ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ นาย เหงวียนวันเกิ่น หัวหน้าแผนกวิจัยและพัฒนาของกลุ่มบริษัท 28 ได้เผยว่า“หนึ่งคือความท้าทายจากการแข่งขันที่รุนแรงกับสินค้าของประเทศต่างๆที่ส่งออกมายังเวียดนามเมื่อทุกประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงนี้ปฏิบัตินโยบายให้สิทธิพิเศษด้านภาษี สองคือการขยายการแลกเปลี่ยนด้านการค้า การหมุนเวียนแรงงานและนักลงทุนที่ก่อให้เกิดปัญหาในการดึงดูดแรงงานฝีมือดีเพื่อทำงานในระยะยาว”

ข้อตกลง CPTPP ได้รับการประเมินว่า เป็นข้อตกลงการค้าเสรีที่สมบูรณ์ที่สุดของเวียดนามในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสเศรษฐกิจโลก ดังนั้น สถานประกอบการเวียดนามต้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เช่น การยกระดับคุณภาพแหล่งบุคลากรผ่านการฝึกอบรมทักษะความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งการปรับปรุงในด้านต่างๆอย่างทันการณ์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันจะช่วยให้เวียดนามสามารถใช้ประโยชน์จากข้อตกลง CPTPP เพื่อผลักดันการขยายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ.