จตุรัสบาดิ่ง

ในโอกาสปีใหม่ 2018 เราได้รับคำอวยพรจากผู้ฟังหลายๆประเทศ โดยคุณเหงียนวันแต๋วอวยพรว่า “ ในการย่างเข้าสู่ปี 2018 ผมขออวยพรให้เจ้าหน้าที่วีโอวีทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุขและประสบความสำเร็จในการทำงาน ผมได้รับปฏิทินปีใหม่ของวีโอวีแล้ว ช่วงนี้ ยุ่งมาก ทุกคนต่างกลับบ้านหลังการทำงานในต่างจังหวัด 1 ปี ถนนหลายสายมีรถหนาแน่น ทางการปกครองท้องถิ่นได้ตั้งด่านเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สัญจรในตลอด 7 วันก่อนและหลังปีใหม่เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุการจราจร ในนามของสมาคมชาวเวียดนามที่อาศัยในอำเภอพังโคน เราได้ไปมอบของขวัญเนื่องในโอกาสปีใหม่เพื่อให้กำลังใจผู้ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ผมขอแจ้งข่าวดีคือผมได้ช่วยคณะกรรมการแห่งชาติเกี่ยวกับชาวเวียดนามที่อาศัยในต่างประเทศจัดงานต้อนรับปีใหม่ 2018 ประสบความสำเร็จ และ คณะของเราจะไปถึงกรุงฮานอยในระหว่างวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์นี้ โดยผมมีความปรารถนาว่าจะมีโอกาสมาเยี่ยมวีโอวี 5 หวังว่าจะเจอกันในวันนั้นครับ”

พวกเราก็มีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้มีโอกาสต้อนรับคณะฯ แต่สองสามวันก่อนที่จะมาเยี่ยมวีโอวี 5 รบกวนช่วยแจ้งข้อมูลรายเอียดให้เราทราบด้วยนะคะเพื่อที่เราจะได้ทำเอกสารที่จำเป็นสำหรับการขออนุญาตเยี่ยมเยือนวีโอวี 5

ส่วนคุณ สุกานดา โตษะสุข ได้คอมเมนท์บนแฟนเพจของเราว่า ชอบการประกวดการสื่อสารต่างประเทศประจำปี 2017 ค่ะ นี่คือการประกวดที่เปิดกว้าง ซึ่งผู้ฟังชาวไทยก็สามารถเข้าร่วมได้ ดังนั้นเราก็หวังว่า จะมีผู้ฟังชาวไทยส่งบทความเข้าร่วมการประกวดและจะได้รับรางวัลสูงๆ

ส่วนคุณ Kukkook Nithanart ได้ถามว่า จตุรัสการปฏิวัติเดือนสิงหาคมคือจตุรัสบาด่งหรือไม่

ไม่ใช่ค่ะ จตุรัสทั้งสองแห่งอยู่คนละที่กัน จตุรัสการปฏิวัติเดือนสิงหาคมอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงละครใหญ่ฮานอยที่แขวงจ่างเตี่ยน เขตหว่านเกี๊ยม กรุงฮานอย ซึ่งมีชื่อเรียกในสมัยนั้นว่าจตุรัสโรงละครใหญ่ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมปี 1945 ได้มีการชุมนุมครั้งใหญ่ของเวียดมิงห์เพื่อยึดคืนอำนาจการปกครอง เป็นการเริ่มต้นให้แก่การลุกขึ้นสู้ในการปฏิวัติเดือนสิงหาคมทั่วประเทศ ในปี 1994 รัฐบาลเวียดนามได้เปลี่ยนชื่อจตุรัสแห่งนี้ว่าจตุรัสการปฏิวัติเดือนสิงหาคม

ส่วนจตุรัสบาดิ่งเป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่บนถนนหุ่งเวือง หน้าบริเวณสุสานประธานโฮจิมินห์ โดยเมื่อปี 1945 ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราชสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามที่จตุรัสแห่งนี้ ส่วนในปัจจุบัน ที่นี่ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญๆของประเทศ

เมืองเก่าฮอยอัน

คุณ Saolmon Manuel ผู้ฟังชาวสเปนได้ส่งคำอวยพรปีใหม่ 2018 ถึงเจ้าหน้าที่วีโอวี 5 ทุกคน โดยบอกว่า ขอให้วีโอวี 5 ออกอากาศคลื่นสั้นต่อไปเพื่อช่วยให้ผู้ฟังมีโอกาสศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศเวียดนามมากขึ้น

ส่วนคุณ Ralf Urbanzcyk ผู้ฟังชาวเยอรมันได้บอกว่า “ผมขอแสดงความยินดีที่เพลงทำนอง “บ่ายจ่อย” ของเวียดนามได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมที่เป็นตัวแทนของมนุษยชาติ สำหรับผมเองก็ชอบการแสดงศิลปะนี้มากเพราะได้มีโอกาสฟังที่เมืองเก่าฮอยอัน แต่ผมสงสัยว่า เมืองเก่าฮอยอันมีอะไรพิเศษถึงได้รับการรับรองเป็นมรดกโลก

ค่ะ คุณ Ralf Urbanzcyk เขียนว่า ฮอยอันเป็นเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ “ทูโบ่น” ตอนล่างในจังหวัดกว๋างนาม หากจากนครดานังไปทางทิศใต้ประมาณ 30 ก.ม. เนื่องจากความสะดวกด้านภูมิศาสตร์และสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้เมืองฮอยอันเป็นท่าเรือพาณิชย์ระหว่างประเทศที่เจริญรุ่งเรือง โดยในช่วงศตวรรษที่ 17 และ 18 มีเรือพาณิชย์จากประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น จีนและตะวันตกมาเทียบท่าอย่างคึกคัก รวมทั้งยังมีร่องรอยของท่าเรือพาณิชย์ชาวจามด้วย ซึ่งปัจจุบันมักจะเรียกว่า เส้นทางสายไหมทางน้ำ ถึงช่วงศตวรรษที่ 19 ท่าเรือพาณิชย์ฮอยอันค่อยๆถูกลดความสำคัญลงเนื่องจากการก่อสร้างนครดานังโดยชาวฝรั่งเศส ถึงปี 1980 คุณค่าทางสถาปัตยกรรมของเมืองเก่าฮอยอันได้รับความสนใจจากนักวิชาการและนักท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศ จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเวียดนาม

เมืองเก่าฮอยอันในวันนี้เป็นตัวอย่างพิเศษเกี่ยวกับท่าเรือพาณิชย์ระหว่างประเทศสมัยบโบราณของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ซึ่งบ้านทุกหลังต่างมีสถาปัตยกรรมในช่วงศตวรรษที่ 17 – 19 โดยตั้งอยู่เลียบตามถนนหลักแคบๆ ส่วนกิจการทางศาสนาของที่นี่เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการก่อตั้ง การพัฒนาและการลดความสำคัญของเมืองเก่า พร้อมทั้งมีวัฒนธรรมที่ผสมผสานระหว่าง จีน ญี่ปุ่น เวียดนามและฝรั่งเศส ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ ความเลื่อมใส ศิลปะพื้นเมืองและเทศกาลวัฒนธรรมของชาวเมืองเก่าก็ได้รับการอนุรักษ์และพัฒนา ฮอยอันจึงถือเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวาและวิถีชีวิตของชาวเมืองเก่า