ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า “การมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึงและความยั่งยืน” เป็นทางเลือกและความต้องการเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียน พร้อมทั้งเสนอให้อาเซียนส่งเสริม 3 พลังเชิงยุทธศาสตร์ ได้แก่ การเสริมสร้างพลังแห่งความสามัคคีและความเป็นหนึ่งเดียว ปฏิบัติยุทธศาสตร์และแผนการปฏิบัติงานของอาเซียนอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพ อาเซียนควรส่งเสริมพลังแห่งความคล่องตัว การพึ่งตนเอง เสริมสร้างการเชื่อมโยงภายในกลุ่มบนพื้นฐานของการเร่งปฏิบัติแผนการร่วมมือผสานกับการตรวจสอบและปรับปรุงต่างๆ เพื่อค้ำประกันการดำเนินงานของกลไกต่างๆ อย่างราบรื่น ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางการค้าและการลงทุนภายในกลุ่ม ควบคู่กับการขยายกรอบความร่วมมือในภูมิภาคและระหว่างภูมิภาค อาเซียนผลักดันนวัตกรรม อนุมัติกรอบความร่วมมือใหม่ เช่น กรอบข้อตกลงเกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียนและแผนการโดยรวมดิจิทัลอาเซียน ผลักดันความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและการบริหารข้อมูลข้ามชาติ ส่งเสริมจิตใจแห่งการทำธุรกิจสตาร์ทอัพและนวัตกรรม การวิจัยก่อตั้งเครือข่ายศูนย์นวัตกรรมอาเซียน

ในสภาวการณ์ที่สถานการณ์ในภูมิภาคและโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้อาเซียนพยายามอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อมีส่วนร่วมต่อการธำรงสันติภาพ ความมั่นคง เสถียรภาพและการพัฒนา ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งอาเซียนควรพยายามมากขึ้นเพื่อธำรงความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวและยืนหยัดหลักการที่เสมอต้นเสมอปลายในปัญหาทะเลตะวันออก ปฏิบัติตามกฎหมายสากล รวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982.