นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า ทั้งสองประเทศมีศักยภาพความร่วมมืออีกมาก พร้อมทั้งเสนอให้เดินหน้าปฏิบัติโครงการปฏิบัติความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านอย่างมีประสิทธิภาพ จัดตั้งกลไกการสนทนาและการทาบทามความคิดเห็นเป็นประจำเพื่อส่งเสริมความเข้าใจและความไว้วางใจทางการเมือง ทั้งสองฝ่ายควรแลกเปลี่ยนมาตรการเพื่อมุ่งสู่การเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะเปิดตลาดอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งออกสินค้า พร้อมทั้งเสนอให้ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมประสิทธิภาพและขยายความร่วมมือด้านกลาโหม-ความมั่นคง โดยเฉพาะความมั่นคงทางไซเบอร์ การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและช่วยเหลือด้านเครื่องมือเพื่อยกระดับทักษะความสามารถให้แก่เวียดนามและมีความประสงค์ว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีความร่วมมือเชิงก้าวกระโดดในการฝึกอบรมแหล่งบุคลากรและการพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ

ส่วนรัฐมนตรี  เพนนี หว่อง  ได้ยืนยันว่า จะพยายามผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ ส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหม ความมั่นคง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรม การศึกษาและฝึกอบรม  การพัฒนาแหล่งบุคลากรผ่านโครงการโอดีเอและกองทุนการลงทุน.