(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 13 มิถุนายน กองทัพอิสราเอลได้เปิดการโจมตีใส่สถานที่นิวเคลียร์และการทหารหลายแห่งในอิหร่าน ส่งผลให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะครั้งใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกกลางที่กำลังไม่มั่นคงอยู่แล้ว
ในแถลงการณ์ผ่านสื่ออิสราเอลเมื่อเช้าวันที่ 13 มิถุนายน นายกรัฐมนตรีอิสราเอลและนายพลระดับสูงหลายนายของกองทัพอิสราเอลได้เผยว่า อิสราเอลได้เปิดการโจมตีเชิงป้องกันใส่สถานที่วิจัยนิวเคลียร์และโครงสร้างพื้นฐานทางทหารหลายแห่งของอิหร่าน “เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์” ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลอิสราเอลถือว่า เป็นภัยคุกคามต่อการคงอยู่ของประเทศ สื่ออิหร่านรายงานว่า อาคารหลายแห่งทางตอนเหนือของกรุงเตหะรานและสถานที่บางแห่งในเมืองนาตันซ์ ในจังหวัดอิสฟาฮาน ทางภาคกลางของอิหร่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านได้เกิดเพลิงไหม้
สื่ออิหร่านได้ยืนยันการโจมตีครั้งนี้และระบุว่า ผู้บัญชาการสูงสุดกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามอิหร่านหรือ IRGC ฮอสเซน ซาลามี และนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ชั้นนำของอิหร่านหลายคนได้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล หลังจากเกิดการโจมตีทางอากาศดังกล่าว ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน อายาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ได้วิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลและกล่าวว่า อิหร่านจะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกัน ทางการอิสราเอลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วประเทศเพื่อเตรียมรับมือการโจมตีของอิหร่าน
หลังจากเกิดการโจมตีดังกล่าว นาย มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้เผยว่าสหรัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการดังกล่าวของอิสราเอล ก่อนหน้านั้น ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ทางการสหรัฐได้อพยพเจ้าหน้าที่นักการทูตจำนวนมากในบางประเทศในตะวันออกกลางเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการปะทะ นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังได้เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ในขณะเดียวกัน หลายประเทศได้แสดงความกังวลว่า การกระทำของอิสราเอลจะทำให้ตะวันออกกลางตกเข้าสู่การปะทะร้ายแรงที่ขยายวงกว้างมากขึ้น
สถานการณ์ล่าสุดในตะวันออกกลาง ทำให้สายการบินหลายสายต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน.