ประธานาธิบดี อิลฮัม แอลีเยฟ และเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม

เมื่อบ่ายวันที่ 7 พฤษภาคม หลังพิธีต้อนรับ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ประธานาธิบดี อิลฮัม แอลีเยฟ และเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ได้เข้าร่วมการเจรจา

ในการเจรจา ประธานาธิบดี อิลฮัม แอลีเยฟ เผยว่า อาเซอร์ไบจานมีความประสงค์ที่จะร่วมมือกับเวียดนามในด้านโลจิสติกส์ ท่าเรือ การขนส่งทางราง การบินและพลังงานหมุนเวียน ดึงดูดสถานประกอบการเวียดนามไปทำธุรกิจในอาเซอร์ไบจาน และให้คำมั่นอำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการเวียดนามประกอบธุรกิจและลงทุนในอาเซอร์ไบจาน 

ภาพการเจรจา

ส่วนเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์มิตรภาพที่มีมาช้านานและความร่วมมือในหลายด้านกับอาเซอร์ไบจานอยู่เสมอ เวียดนามถืออาเซอร์ไบจานเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญในภูมิภาคและมีความประสงค์ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและโลกที่ต่างให้ความสนใจ ผู้นำทั้งสองประเทศได้ย้ำถึงความสำคัญของการแก้ไขความขัดแย้งและความแตกต่างด้วยสันติวิธี บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ สนับสนุนจุดยืนของอาเซียนเกี่ยวกับปัญหาทะเลตะวันออกตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982

หลังการเจรจา เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม และประธานาธิบดี อิลฮัม แอลีเยฟ ได้เป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือและอนุมัติแถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม - อาเซอร์ไบจาน

ประธานาธิบดี อิลฮัม แอลีเยฟ

ในการแถลงข่าวหลังการเจรจา ประธานาธิบดีอาเซอร์ไบจานย้ำว่า ทั้งสองฝ่ายได้มีก้าวเดินที่สำคัญเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ดีขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือในด้านการศึกษาและโลจิสติกส์

ส่วนเลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม ยืนยันว่า เพื่อแปรเนื้อหาของแถลงการณ์ร่วมอย่างเป็นรูปธรรมและนำความสัมพันธ์ทวิภาคีเข้าสู่ยุคแห่งการพัฒนาใหม่ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องเป็นเอกฉันท์เกี่ยวกับ 5 กลุ่มปัญหา

“ส่งเสริมการพบปะและการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ โดยเฉพาะระดับสูง ในทุกช่องทางของพรรค รัฐ สภาแห่งชาติและท้องถิ่น ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามกับพรรคอาเซอร์ไบจานใหม่ (New Azerbaijan Party ) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ตลอดจนพรรคการเมืองที่สำคัญๆในอาเซอร์ไบจาน ดำเนินการตามเอกสารและข้อตกลงระดับสูงที่ได้ลงนามอย่างมีประสิทธิภาพ ประสานงานเพื่อปฏิบัติกลไกความร่วมมือที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ วิจัยการจัดตั้งกลไกความร่วมมือใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างจริงจังและครอบคลุมผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพของคณะกรรมการร่วมรัฐบาลว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ - การค้าและวิทยาศาสตร์ - เทคนิค ส่งเสริมการค้าและการลงทุน และการเชื่อมโยงชุมชนสถานประกอบการของทั้งสองประเทศ เน้นพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงาน  น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ วิจัยและส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่มีศักยภาพ เช่น การขนส่งทางรางและทางทะเล การเกษตร การแปรรูป และอุตสาหกรรมการผลิต”

เลขาธิการใหญ่พรรค โตเลิม แสดงความเห็นว่า ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องส่งเสริมความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง วัฒนธรรม กีฬา การท่องเที่ยว การศึกษาและฝึกอบรม และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน.