(VOVWORLD) - การสร้างพื้นที่พรมแดนแห่งมิตรภาพระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ถือเป็นเป้าหมายร่วมและได้รับการให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของรัฐ กองทัพ และประชาชนทั้งสองประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนผ่านกิจกรรมความร่วมมือด้านกลาโหม วัฒนธรรม–สังคม และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน โดยในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา วันงานการพบปะมิตรภาพด้านกลาโหมในเขตชายแดนเวียดนาม–กัมพูชาครั้งที่ 2 ได้มีขึ้น ณ พื้นที่เขตชายแดนในจังหวัดเตยนิงของเวียดนามและจังหวัดสวายเรียงของกัมพูชา ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ ที่มีความหมายเหล่านี้พร้อมความเอาใจใส่ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในเขตชายแดน ได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย รวมถึงความสามัคคีและสัมพันธไมตรีที่ยั่งยืนเวียดนาม–กัมพูชา
ประชาชนในเขตชายแดนระหว่างเวียดนามกับกัมพูชาเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ |
สำหรับงานการพบปะมิตรภาพกลาโหมชายแดนเวียดนาม–กัมพูชาในปีนี้ ซึ่งมีขึ้น ณ ตำบลเบ๊นเกิ่ว จังหวัดเตยนิง ทำให้ประชาชนในท้องถิ่นรู้สึกปลื้มปิติอย่างมาก นาย โห่วันหลาม (Hồ Văn Lãm) ชาวตำบลเบ๊นเกิ่ว ที่เข้าร่วมการเฉลิมฉลองในงาน เผยว่า ครอบครัวของเขาเองกำลังอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ติดกับเขตชายแดน ดังนั้น การเดินทางไปมาระหว่างสองฝั่งนั้นได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของทุกคนในบ้าน โดยลูกสาวของเขาได้เตรียมชุดอาหารและขนมปังทุก ๆ เช้าเพื่อนำไปขายที่กัมพูชา แล้วจะเดินทางกลับเวียดนามในตอนเที่ยง
“ชาวบ้านในเขตชายแดนต่างหวังให้การเดินทางไปมาทำมาหากินเป็นไปอย่างสะดวก ความสามัคคีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศมีส่วนช่วยทำให้กิจการค้าขายและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมดำเนินไปอย่างราบรื่น พร้อมเปิดโอกาสในการเสริมสร้างความเชื่อมโยงและทำให้ทุกคนต่างรู้สึกชื่นใจ”
การมอบวัวพันธุ์ให้แก่ครอบครัวในเขตชายแดนระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา ณ จังหวัดกว๋างนิงห์ (bienphong.com.vn) |
ส่วนประชาชนกัมพูชาก็ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นรูปธรรมภายใต้กรอบของกิจกรรมพบปะครั้งนี้ โดยคณะแพทย์ทหารเวียดนาม–กัมพูชากว่า 100 นาย ได้จัดกิจกรรมให้บริการตรวจรักษาสุขภาพและจ่ายยาฟรีให้แก่ประชาชน 1,500 คน จาก 9 ตำบลของอำเภอสวายเตียบ จังหวัดสวายเรียง ประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมเวียดนามยังมอบวัวพ่อแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพดีจำนวน 20 ตัวให้แก่ครอบครัวที่มีฐานะยากจนในพื้นที่ชายแดน ประเทศละ 10 ครัวเรือน เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือนและขจัดความยากจนอย่างยั่งยืน นาย Ouch Narith และนาง Sray Mau ชาวตำบล Monorom อำเภอสวายเตียบ แสดงความดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือโดยกล่าวว่า
“ผมยังไม่เคยเลี้ยงวัวพันธุ์ที่มีคุณภาพดี ๆ แบบนี้มาก่อน ผมจะพยายามดูแลให้ดีที่สุด เพื่อให้สามารถขยายพันธุ์ต่อได้ เพื่อสามารถพัฒนาฐานะของครอบครัวให้หลุดพ้นจากความยากลำบาก”
“ฉันดีใจมาก ๆ ที่ได้รับพันธุ์วัวฟรี ฉันจะดูแลมันอย่างดี เพื่อไม่ทำให้ผู้ที่มอบให้ต้องผิดหวัง”
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การแลกเปลี่ยนและกิจกรรมการค้าของประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดนยังคงดำเนินไปอย่างมั่นคง อันเนื่องจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกองกำลังทหารชายแดนทั้งสองฝ่าย โดยที่จังหวัดเตยนิง ป้อมทหารชายแดนเวียดนามหลายแห่งได้รักษาการประสานงานร่วมกับฝ่ายกัมพูชามาโดยตลอด เพื่อมีส่วนช่วยรักษาความมั่นคง ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และเสริมสร้างความสามัคคีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พันตรี เจืองดงฟี รองผู้บัญชาการทางการเมือง ป้อมทหารชายแดนหมีแถ็งเตย์ จังหวัดเตยนิง เผยว่า
“ในช่วงที่ผ่านมา ป้อมทหารชายแดนหมีแถ็งเตย์ ได้มีความร่วมมือกับกองกำลังทหารชายแดนกัมพูชาอย่างแข็งขันในการลาดตระเวนร่วม แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันการณ์ ต่อต้านและป้องกันอาชญากรรมทุกรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์และให้ความรู้ด้านกฎหมาย ขยายรูปแบบการเชื่อมสัมพันธ์สองฝั่งชายแดน จัดกิจกรรมเยี่ยมเยือน มอบของขวัญ แจกยาฟรีให้ประชาชน สนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาและรับดูแลนักเรียนภายใต้โครงการ ‘ให้น้อง ๆ ได้ไปโรงเรียน’ สำหรับเด็ก ๆ ที่อาศัยในสองฝากฝั่งชายแดน”
พลเอก ฟานวันยาง มอบโรงเรียนประถมมิตรภาพ Sang Sovan ให้แก่ฝ่ายกัมพูชา |
สำหรับจุดเด่นที่มีความหมายอย่างมากของงานพบปะมิตรภาพชายแดนเวียดนาม–กัมพูชา ปี 2025 คือพิธีวางศิลาฤกษ์โรงเรียนประถมมิตรภาพ Sang Sovan ณ อำเภอสวายเตียบ จังหวัดสวายเรียง ประเทศกัมพูชา โดยโรงเรียนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นใหม่ในพื้นที่ 30,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นโครงการมิตรภาพที่ได้รับวงเงินสนับสนุนทั้งหมดจากกระทรวงกลาโหมเวียดนาม เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของเด็ก ๆ ในพื้นที่เขตชายแดน พลเอก ฟานวันยาง (Phan Văn Giang) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเวียดนาม ย้ำว่า
“การสร้างโรงเรียนประถมมิตรภาพ Sang Sovan เป็นหมุดหมายที่เด่นชัดว่า มิตรภาพที่ดีงามไม่ได้เพียงแสดงผ่านกิจกรรมความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงเท่านั้น แต่ยังสะท้อนจากความห่วงใยและการดูแลเอาใจใส่คนรุ่นหลังเพื่ออนาคตที่ดี โรงเรียนแห่งนี้ไม่เพียงแค่เป็นสถานศึกษาแห่งใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของมิตรภาพที่มีมาอย่างช้านานระหว่างเวียดนามและกัมพูชา แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจอย่างลึกซึ้งของกระทรวงกลาโหมและกองทัพของทั้งสองประเทศต่อภารกิจด้านการศึกษา โดยเฉพาะเหล่าเด็กๆ และเยาวชน ผู้เป็นความหวังของชาติในอนาคต”
ทั้งนี้ จากกิจกรรมที่มีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมดังกล่าวอย่างเช่นการมอบวัวพ่อแม่พันธุ์ การตรวจรักษาโรค และการสนับสนุนด้านการศึกษา รวมถึงกิจกรรมการลาดตระเวนและฝึกซ้อมร่วม การกระทำอย่างจริงใจเหล่านี้ได้ยืนยันอีกครั้งถึงมิตรภาพระหว่างเวียดนามและกัมพูชา ไม่ได้ปรากฏเพียงแต่ในเอกสารความร่วมมือเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของประชาชนทั้งสองประเทศในสถานที่ที่ใกล้ชิดและเรียบง่ายที่สุด.