โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ส่งเสริม Soft Power ด้านอาหารของไทย

(VOVWORLD) -ด้วยเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น “ครัวโลก” ไทยกำลังส่งเสริมนโยบายการพัฒนา Soft Power ด้านอาหาร ซึ่งหนึ่งในโครงการที่น่าสนใจคือ โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย”หรือ OFOS โดยตั้งเป้าไว้ว่า จะฝึกอบรมเชฟอาหารไทยจำนวนมากและเป็นมืออาชีพให้แก่โลก
โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ส่งเสริม Soft Power ด้านอาหารของไทย  - ảnh 1เชฟ เจ๊ไฝ
 
 

ที่ศูนย์การศึกษามรดกไทยสังกัดสถาบันอาหาร เชฟ เจ๊ไฝ เจ้าของร้านเจ๊ไฝกำลังสาธิตวิธีการทำไข่เจียวปูที่ได้รางวัลมิชลินสตาร์ต่อหน้าผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารไทย 50 อย่างที่ผู้เข้าเรียนมีโอกาสเรียนวิธีการทำ เชฟ เจ๊ไฝ เผยว่า

“อาหารไทยต่างชาติชอบมาก มันเป็นรสจัดจ้าน คนไทยทานรสจัดจ้านแล้วถึงเนื้อถึงหนังเลย ถ้าหาว่าละเอียดอ่อนนิดหนึ่ง อาหารไทยเราอร่อย รับรองว่าไม่แพ้ต่างชาติ หลากหลายทุกอย่าง ถ้าหากทำอาหารเราทุ่มเท ศึกษามันจะอร่อยนะ  เราทำได้ทุกคน”

ในกรอบโครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย”ที่จะดำเนินไปจนถึงปี 2027  ชาวไทยที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจากหมู่บ้านประมาณ 7 หมื่น 8 พันแห่งทั่วประเทศจะมีโอกาสเข้าร่วมการอบรมต่างๆเพื่อเพิ่มทักษะด้านการทำอาหาร โดยตั้งเป้าสร้างเชฟอาหารไทยมืออาชีพให้แก่โลก เชฟ  ชุมพล แจ้งไพร ประธานคณะอนุกรรมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารไทย เผยว่า

“ เป้าหมายของ OFOS คือ เราต้องการพัฒนาคน OFOS อย่างที่บอก ถ้าหากเรามีคนพัฒนาแล้ว คนก็จะพัฒนาต่อไปเพื่อ support อุตสาหกรรมอาหารไทยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศมีความต้องการสูงมาก เชฟอาหารไทยในต่างประเทศมีเงินเดือนสูง ถ้าเกิดเขาทำอาชีพนี้ ทำให้ชีวิตตัวเขาเอง ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันดับสองเพื่อจะวางแผนการผลิตบุคลากรเพราะเราผลักดัน สนับสนุนเพื่อจะให้คนประกอบธุรกิจร้านอาหารไทย ทั่วโลกมีซักสองหมื่นกว่าร้านให้มาเป็น 1 แสนร้ายภายใน 5 ปี ถ้าหากเราขยายตัวนั้นแล้ว อุตสาหกรรมกะทิ น้ำพริกแกง น้ำปลา พืชผักสมุนไพรทุกอย่างก็จะส่งมาจากประเทศไทย”

โครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย” ส่งเสริม Soft Power ด้านอาหารของไทย  - ảnh 2ผู้ที่เข้าร่วมโครงการ “1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย”

การอบรมเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านอาหารถูกจัดขึ้นทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์  ที่กรุงเทพฯ การอบรมถูกจัดขึ้นที่ศูนย์การศึกษามรดกไทย สถาบันอาหาร นางสาว ยุวภา ใจบุญ. ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตสถาบันอาหาร หรือ NFI เผยว่า ผู้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนเคล็ดลับในการทำอาหารไทยและวิธีการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพดี 

“โครงการนี้จะช่วยยกระดับทักษะให้แก่เชฟอาหารไทย ช่วยให้พวกเขากลายเป็นผู้ที่ทรงอิทธิพล มีส่วนช่วยประชาสัมพันธ์อาหารไทยสู่โลก   ผู้เข้าเรียนจะเรียนทฤษฎีการทำอาหารตั้งแต่เริ่มต้น ผ่านระบบออนไลน์ 90 ชั่วโมง เรียนภาคปฏิบัติเข้าครัวในสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ 150 ชั่วโมง  ลงมือเรียนหลักสูตรอาหารกว่า 50 เมนู หลังจากเรียนจบ ผู้เข้าเรียนจะเข้าสอบและได้รับใบรับรองเป็นเชฟมืออาชีพและสามารถทำงานในร้านอาหารไทยทั้งภายในและต่างประเทศ”

นอกจากการอบรมเชฟแล้ว โครงการนี้ยังมีการอบรม “ MBA chef” และ Thai Restaurant Entrepreneur  ผ่านโครงการนี้ ไทยตั้งเป้าหมายที่จะอมรมพ่อครัวแม่ครัวกว่า 7 หมื่น 5 พันคนให้กลายเป็นเชฟมืออาชีพด้านอาหารไทย ตามข้อมูลสถิติ เมื่อปี 2024 ได้มีการฝึกอบรมเชฟ 1 พัน 3 ร้อยคนและคาดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 หมื่น 7 พันคนในปีนี้และกว่า 2 หมื่นคนในปี 2026 และ 3 หมื่นคนในปี 2027.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด