ดนตรีและเพลงพื้นเมืองของชนเผ่าโลโล
To Tuan/VOV5 -  
(VOVWORLD) -ชนเผ่าโลโลเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อยที่มีประวัติศาสตร์การพัฒนาและวัฒนธรรมที่ยาวนานที่สุด ชาวโลโลจึงมีความภูมิใจในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศิลปะพื้นเมืองที่สะท้อนผ่านการรำและเพลงพื้นเมืองที่ไพเราะลึกซึ้งและละเอียดอ่อน เปี่ยมด้วยความรักใคร่กันระหว่างมนุษย์ ธรรมชาติและชีวิตสังคม
การแสดงดนตรีพื้นเมืองของชาวโลโลมักจะมีเครื่องดนตรีประกอบ(photo internet) |
ชนเผ่าโลโลเป็นหนึ่งในชนเผ่าที่ปรากฎและบุกเบิกพื้นที่ตั้งหลักอาศัยกลุ่มแรกๆในอ.ด่งวัน จ.ห่ายาง เนื่องจากห่ายางเป็นท้องถิ่นเขตเขาดังนั้นวิถีชีวิตของชาวโลโลจึงมีความผูกพันกับภูผาหินและสภาพอากาศที่เเปรปวนจนทำให้การดำเนินชีวิตมีความลำบากมาก แต่ถึงจะลำบากยากเข็ญแค่ไหน ชุมชนเผ่าโลโลก็ยังคงสร้างสรรค์คุณค่าชีวิตจิตใจและวัฒนธรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะคลังดนตรีและเพลงพื้นเมือง
ชาวโลโลได้ตั้งหลักอาศัยตามเขตเขาสูง ใช้ชีวิตที่ค่อนข้างโดดเดี่ยวจากสังคมทำให้ลีลาเพลงพื้นเมืองของชนเผ่าได้รับการถ่ายทอดและสืบต่อกันผ่านการสอนแบบเล่าสู่กันและผ่านการแสดงในงานเทศกาลต่างๆที่จัดขึ้นเป็นประจำในท้องถิ่น ซึ่งผ่านงานประเพณีต่างๆเหล่านั้นชุมชนชาวโลโลได้สะท้อนถึงจิตใจแห่งการยึดมั่นอนุรักษ์เอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองเฉพาะของตนให้คงอยู่ต่อไป ศิลปินชาวโลโล ทาวถิยาง ได้เผยว่า “ประเพณีวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวโลโลได้สืบทอดจากบรรพบุรุษตั้งแต่โบราณกาลโดยเฉพาะเพลงพื้นเมืองซึ่งมี3ทำนองสำคัญและมี5ท่ารำที่เราคุ้นเคยกันดี”
การแสดงดนตรีพื้นเมืองของชาวโลโลมักจะมีเครื่องดนตรีประกอบเพื่อสร้างเป็นจังหวะให้แก่เพลงต่างๆ ซึ่งยกเว้นเพลงกล่อมลูก เพลงพื้นเมืองที่มีหัวข้ออื่นๆล้วนใช้ลีลาดนตรีแบบเดียวกัน และในแต่ละชุมชนท้องถิ่น ชาวโลโลจะมีเพลงพื้นเมืองทำนองเฉพาะแต่โดยรวมแล้วเพลงทุกเพลงต่างสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ร่วมของชาวโลโล
ในการดำเนินชีวิตนั้น ชาวเผ่าโลโลสามารถร้องเพลงได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะร้องในบ้าน นอกบ้าน ในระหว่างการทำนาทำไร่ การไปจ่ายตลาดหรือในงานเทศกาลต่างๆ เมื่อผู้คนได้พบปะสังสรรค์กัน พวกเขาก็อาจร้องเพลงเป็นภาษาโลโลเพื่อแทนการทักทายกัน ซึ่งนับเป็นประเพณีที่งดงามอย่างหนึ่งที่ช่วยสะท้อนความรักใคร่ระหว่างมนุษย์ในชุมชน สำหรับหัวข้อหลักๆของเพลงพื้นเมืองชนเผ่าโลโลนั้นเน้นสะท้อนความรักและให้กำลังใจทำการผลิต โดยเฉพาะเพลงโต้ตอบระหว่างชายหญิงเผ่าโลโลสามารถบรรยายถึงความรักความรู้สึกและความปรารถนาเกี่ยวกับชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกได้อย่างไพเราะเร้าใจ ในเพลงโต้ตอบระหว่างหนุ่มสาวนั้น ทำนองเพลงถือเป็นประเภทภาษาพิเศษ เป็นสัญญาณสะท้อนสายสัมพันธ์ระหว่างดินฟ้าและชีวิตของมนุษย์ เป็นสายใยเชื่อมหัวใจของคนสองคน
ส่วนในงานศพของชาวโลโลที่ด่งวัน แหม่วหวากจังหวัดห่ายางหรือที่บ๋าวหลากจ.กาวบั่ง ชาวโลโลมักจะร้องเพลง “มอ” เพื่อเป็นการส่งผู้ตายไปสู่สุคติ โดยเนื้อเพลงได้พูดถึงต้นกำเนิดและเส้นทางที่ชาวโลโลได้ผ่านมาจนถึงวันนี้
แม้เวลาได้ผ่านไปนานแสนนานแต่ชาวโลโลก็ยังคงอนุรักษ์และส่งเสริมการใช้ดนตรีและเพลงพื้นเมืองในชีวิตวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องด้วยความปรารถนาว่า ประเพณีและเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่ล้ำค่านี้ของชนเผ่าตนจะคงอยู่คู่กับการพัฒนาของประเทศชาติอย่างมั่นคง.
To Tuan/VOV5