ดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน

(VOVWORLD) - ในปี 2024 เวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอ 3 หมื่น 8 พัน 2 ร้อย 3 สิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งติดกลุ่ม 15 ประเทศที่กำลังดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอมากที่สุดในโลก ที่น่าสนใจคือ เงินลงทุนเอฟดีไอในด้านเทคโนโลยีนับวันเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันถึงแนวทางที่ถูกต้องของเวียดนามในการดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอใหม่ที่มีคุณภาพสูง
ดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและการพัฒนาอย่างยั่งยืน - ảnh 1นาย Jensen Huang ประธานเครือบริษัท Nvidia( Photo: VGP)

เมื่อปลายปีที่แล้ว เวียดนามได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลกเมื่อนาย Jensen Huang ประธานเครือบริษัท Nvidia ของสหรัฐ ซึ่งเป็นเครือบริษัทที่ออกแบบและผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้เดินทางมายังเวียดนามเพื่อลงนามในข้อตกลงร่วมมือกับรัฐบาลเวียดนามจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาปัญญาประดิษฐ์หรือ AI และฐานข้อมูล AI ในเวียดนาม โดยยืนยันว่า จะช่วยให้เวียดนามกลายเป็น “บ้านหลังที่ 2 ของ Nvidia” และชื่นชมศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม โดยเฉพาะแหล่งบุคลากรด้านเทคโนโลยีขั้นสูง

ผมคิดว่า ผู้ปกครองเวียดนามตั้งความหวังเป็นอย่างมากต่อลูกหลาน ซึ่งช่วยให้คนรุ่นใหม่เวียดนามมีความสามารถในด้าน STEM พัฒนาแหล่งบุคลากรในด้านนี้และการส่งออกซอฟต์แวร์ของเวียดนามมีความแข็งแกร่งมากขึ้น”

นาย เจิ่นก๊วกเฟือง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนเวียดนามเผยว่า การที่บริษัท Nvidia ตั้งบริษัทในเวียดนามถือเป็นนิมิตหมายที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของเวียดนามในการดึงดูดแหล่งเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศหรือเอฟดีไอในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติต่อการเปลี่ยนแปลงที่น่ายินดีของเวียดนาม ยกตัวอย่างเช่น การปรับปรุงเงื่อนไขการดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศในด้านที่ดินและพลังงาน โดยเฉพาะแหล่งบุคลากร รัฐมนตรีช่วย เจิ่นก๊วกเฟือง เผยว่า

“เรามีความพร้อมในด้านบุคลากร ทางกระทรวงฯ ได้รับมอบหมายหน้าที่ฝึกอบรมวิศวกรและแรงงานที่มีทักษะสูงในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและเซมิคอนดักเตอร์ 50,000 คน การเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่การผลิตจะช่วยปรับปรุงสถานะของเวียดนามบนเวทีโลก เป็นพื้นฐานที่สำคัญที่ช่วยให้เวียดนามเข้าร่วมห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจและการผลิตประกอบธุรกิจ”

ตามข้อมูลสถิติของกระทรวงวางแผนและการลงทุน ในปี 2024 เวียดนามสามารถดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศได้กว่า 3 หมื่น 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดกลุ่ม 15 ประเทศที่กำลังพัฒนาที่สามารถดึงดูดเงินลงทุนเอฟดีไอมากที่สุดในโลก ยอดเงินทุนเอฟดีไอที่ได้รับการปฏิบัติอยู่ที่ราว 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.4 ซึ่งสูงที่สุดนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มูลค่าเครื่องหมายการค้าของประเทศในปี 2024 บรรลุ 5 แสน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ติดอันดับที่ 32 ของโลก เลื่อนขึ้น 1 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2023 ที่น่าสนใจคือ เวียดนามนับวันดึงดูดโครงการลงทุนใหญ่ในด้านเซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน การผลิตอุปกรณ์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น นาย ด่าวหงอกเตี๊ยน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยการค้าต่างประเทศให้ข้อสังเกตว่า ตัวเลขดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า ยุทธศาสตร์ดึงดูดการลงทุนที่มีคุณภาพสูงของเวียดนามกำลังเดินถูกทิศทาง ส่วนในการให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางในเวลาที่จะถึง นาย หวูก๊วกฮวี ผู้อำนวยศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติหรือ NIC ได้ยืนยันว่า ในปี 2024 และปีต่อๆ ไป แหล่งเงินทุนเอฟดีไอที่ไหลเข้าเวียดนามจะนับวันได้รับการคัดเลือกอย่างรอบคอบมากขึ้นตามแนวทางที่ให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อโครงการเอฟดีไอที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีขั้นพื้นฐานและขยายผลในท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมแนวโน้มนี้ NIC ได้เตรียมยุทธศาสตร์ใหญ่ๆ พัฒนาแหล่งบุคลากรและสร้างสรรค์ระบบนิเวศที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง นาย ฮวี กล่าวว่า

“เรากำลังสร้างสรรค์กลุ่มหุ้นส่วนใหญ่ๆ ในระบบนิเวศ  โดยมีสถานประกอบการและเครือบริษัทรายใหญ่ทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งกองทุนลงทุนและองค์กรสนับสนุนนวัตกรรมและระบบสำนักงานภาครัฐ ซึ่งทั้งหมดช่วยสร้างสรรค์ระบบนิเวศนวัตกรรม สร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพและเทคโนโลยีที่สนับสนุนการค้าขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับด้านหลักๆ ในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0”

บรรดาผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ไม่เพียงแต่ตัวเลขของเงินทุนเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือแหล่งเงินลงทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้าเวียดนามได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยมีการปรับเปลี่ยนไปยังด้านที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีขั้นพื้นฐาน และนำเวียดนามพัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ในห่วงโซ่มูลค่าโลกในยุคใหม่แห่งการพัฒนา.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด