นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เป็นประธานการเสวนากับสถานประกอบการจีน (VGP)

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เผยว่า เวียดนามกำหนดว่า ความพยายามเพื่อให้การเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 8 คือความท้าทายครั้งใหญ่ในสภาวะปัจจุบัน แต่ก็มุ่งมั่นบรรลุเป้าหมายนี้ ดังนั้นการพึ่งตนเองจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ยังต้องเรียกร้องความช่วยเหลือและความร่วมมือจากประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงชุมชนสถานประกอบการจีน

นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศกำลังพัฒนาอย่างดีงาม ทั้งสองพรรคและสองรัฐไม่มีเป้าหมายอื่นใดนอกจากการพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความอิ่มหนำผาสุก ในกระบวนการนี้ ต้องเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งสองประเทศ เชื่อมโยงสถานประกอบการ และแลกเปลี่ยนระดับประชาชน จึงเสนอให้สถานประกอบการเวียดนามและจีนเป็นผู้เดินหน้าในการปฏิบัติตามข้อตกลงของผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศในการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนระดับประชาชนของทั้งสองประเทศเพื่อมีส่วนร่วมในการฉลองครบรอบ 75 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ

นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ว่า สถานประกอบการจีนจะถ่ายทอดเทคโนโลยี สนับสนุนและช่วยเหลือเวียดนามอย่างเข้มแข็ง การเข้าร่วมห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก ขยายการลงทุน ลงทุนในพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตแบบดั้งเดิม ส่งเสริมพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตใหม่และอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เทคโนโลยีชีวภาพ วัสดุใหม่ และบริการระดับไฮเอนด์ เช่น การชำระเงินด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นายกรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงคมนาคมขนส่งเร่ดำเนินการโครงการรถไฟที่เชื่อมโยงจีน โดยเฉพาะ ทางรถไฟสายลาวกาย - ฮานอย - ไฮฟอง, หล่างเซิน - ฮานอย, ม๊องก๊าย - ฮาลอง - ไฮฟอง และหวังว่า นี่จะเป็นกิจการแห่งสัญลักษณ์ของทั้งสองประเทศ

ส่วนผู้บริหารของสมาคม เครือบริษัทและกลุ่มบริษัทจีน 23 แห่งได้แสดงความมั่นใจเกี่ยวกับโอกาสการพัฒนาและอนาคตที่สดใสของเศรษฐกิจเวียดนาม ชื่นชมสภาพแวดล้อมการลงทุนประกอบธุรกิจของเวียดนามที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น เป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าดึงดูดใจในโลกและเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก สถานประกอบการจีนมีความประสงค์ที่จะขยายการลงทุนประกอบธุรกิจในเวียดนามในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจหมุนเวียน อิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีสารสนเทศและพลังงานสะอาด.