ก่อนหน้านั้น ในวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับผู้นำประเทศต่างๆนอกรอบการประชุมสุดยอดจี 20 ณ ประเทศแอฟริกาใต้ ในการพบปะกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า การพัฒนาความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสเป็นความต้องการเชิงภาวะวิสัยและทางเลือกที่สำคัญของเวียดนาม เสนอให้ทั้งสองฝ่ายธำรงการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ พร้อมทั้งเสนอให้ฝรั่งเศสประสานงานในการปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรือ EVFTA อย่างมีประสิทธิภาพ เสนอให้ฝรั่งเศสให้สัตยาบันข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนเวียดนาม-สหภาพยุโรป หรือ EVIPA และส่งเสริมให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิกใบเหลืองต่อสัตว์น้ำเวียดนามโดยเร็ว

 ส่วนในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับเยอรมนี ชื่นชมบทบาทนำหน้าของเยอรมนีในสหภาพยุโรป เวียดนามสนับสนุนบทบาทอย่างแข็งขันของเยอรมนีในการธำรงสันติภาพ เสถียรภาพ และเพื่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนร่วมกันในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ผู้นำทั้งสองท่านย้ำถึงความสำคัญของความสามัคคี  มิตรภาพ และความร่วมมือในสถานการณ์โลกและภูมิภาคปัจจุบัน

ในการให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีอียิปต์ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เสนอให้ทั้งสองฝ่ายผลักดันความร่วมมือด้านการเกษตร การส่งเสริมสินค้าการเกษตร  เอื้อให้แก่การส่งออกข้าว แก้วมังกรและลำใยของเวียดนามไปยังอียิปต์  เห็นพ้องเสร็จสิ้นการจัดทำโครงการปฏิบัติความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ในทุกด้านระหว่างสองประเทศ 

ในการพบปะกับนายกรัฐมนตรีนอร์เวย์  นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แสดงความประสงค์ว่า  ทั้งสองฝ่ายจะลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงเกี่ยวกับการจัดตั้งหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สีเขียวโดยเร็ว เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการปรับเปลี่ยนแห่งสีเขียว เศรษฐกิจหมุนเวียนและการปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิภาคอากาศ เสนอให้รัฐบาลนอร์เวย์ส่งเสริมให้สถานประกอบการและกองทุนการลงทุนของนอร์เวย์ขยายการลงทุนในเวียดนามต่อไป ผู้นำทั้งสองท่านยังเห็นพ้องที่จะผลักดันการแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนระดับสูง  มุ่งสู่การยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่และส่งเสริมให้เสร็จสิ้นการเจรจาและการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างสมาคมการค้าเสรียุโรปกับเวียดนาม.