บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม

นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิง ได้ยืนยันว่า เวียดนามถือการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเป็นความต้องการเร่งด่วนและเป็นหน้าที่เชิงประวัติศาสตร์ โดยได้เดินหน้าประสานงานงานกับประเทศต่างๆและภูมิภาคอย่างใกล้ชิดในการค้ำประกันความมั่นคงด้านอาหารและลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกในโลก ซึ่งประเทศต่างๆต้องเดินหน้าวางผังเขต ปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างคล่องตัว ถือประชาชนและสถานประกอบการเป็นศูนย์กลาง เป็นแกนหลัก สร้างงานทำ ค้ำประกันการประกอบอาชีพของประชาชน ทำการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นผสานกับการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงด้านดิจัลและ AI เสนอให้ผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างเครือข่ายเขตที่ราบลุ่มโลก เน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี แลกเปลี่ยนข้อมูลและประสงการณ์และยืนยันว่า เวียดนามมุ่งมั่นปฏิบัติ 3 พร้อมเพื่อพัฒนาเขตที่ราบลุ่ม

“หนึ่งคือพร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์บริหารและความคิดริเริ่มเพื่อการพัฒนา สองคือเข้าร่วมกลไกความร่วมมือระดับภูมิภาคและโลกเกี่ยวกับเขตที่ราบลุ่ม สามคือมีส่วนร่วมต่อความพยายามระดับโลกเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและผลกระทบอื่นๆอย่างคล่องตัว”