น้ำท่วมในท้องถิ่นหลายแห่งในภาคเหนือสูงถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์

โดยพื้นที่บางแห่งน้ำท่วมสูงถึง 3 เมตร ซึ่งที่จังหวัดท้ายเงวียน น้ำท่วนานถึง 2-3 วัน ในขณะที่จังหวัดบั๊กนิง น้ำท่วมกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สูงกว่าสถิติสูงสุดที่เคยบันทึกไว้ในปี 1986

ตามรายงานเบื้องต้นของจังหวัดท้ายเงวียน จนถึงบ่ายวันที่ 9 ตุลาคม ได้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย สูญหาย 2 รายและบาดเจ็บ 2 ราย บ้านเรือนประมาณ 200,000 หลังและพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 7,100 เฮกตาร์จมอยู่ใต้น้ำ ปศุสัตว์หลายแสนตัวได้รับความเสียหาย ส่วนพื้นที่หลายแห่ง น้ำท่วมยังคงอยู่ในระดับสูง หลายครอบครัวยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามสาขาจังหวัดท้ายเงวียนได้เรียกร้องให้หน่วยงาน ท้องถิ่นทุกระดับ องค์กรและบุคคลช่วยเหลือจังหวัดท้ายเงวียนเพื่อแก้ไขความเสียหายจากน้ำท่วม นาย ดิงกวางเตวียน ประธานแนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามสาขาจังหวัดท้ายเงวียนเผยว่า

“ปัจจุบัน หน้าที่ในเฉพาะหน้าคือ การอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย การจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่น้ำท่วม พร้อมทั้ง จัดสรรอาหารและสิ่งของจำเป็นให้แก่ประชาชน เรากำลังประสบความยากลำบากในการรวบรวมอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ เพราะน้ำท่วมเกือบทุกที่”

ที่จังหวัดหล่างเซิน ปริมาณน้ำฝนในช่วงสองวันที่ผ่านมาอยู่ที่ประมาณ 180-280 มิลลิเมตร และด้วยระดับน้ำในแม่น้ำบั๊กเคอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้เขื่อนของโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำบั๊กเค 1 แตกจนต้องรีบทำการอพยพประชาชนกว่า 800 ครอบครัวไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ที่จังหวัดกาวบั่ง ปริมาณน้ำฝน 100-200 มิลลิเมตรในช่วงสองวันที่ผ่านมาได้ทำให้น้ำในแม่น้ำบั่ง แม่น้ำเฮี้ยนเอ่อล้นตลิ่ง บ้านเรือนประชาชน พื้นที่ปลูกข้าวและพืชผลกว่า 5,000 เฮกตาร์จมอยู่ใต้น้ำ และเกิดดินถล่มทัทางหลวงบางสาย

จนถึงบ่ายวันที่ 9 ตุลาคม สถานการณ์น้ำท่วมได้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 ราย สูญหาย 5 รายและบาดเจ็บ 7 ราย บ้านเรือนเกือบ 17,000 หลังจมอยู่ใต้น้ำ.