ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นประธานในพิธีต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง

(VOVWORLD) - เช้าวันที่ 26 พฤษภาคม ณ ทำเนียบประธานประเทศในกรุงฮานอย ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และภริยาได้เป็นประธานพิธีต้อนรับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง และภริยาในโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการในระหว่างวันที่ 25-27 พฤษภาคม
ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นประธานในพิธีต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง - ảnh 1ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นประธานในพิธีต้อนรับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง

ในพิธีต้อนรับ ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เข้าร่วมพิธีเคารพธงชาติ ขึ้นแท่นเกียรติยศ เดินตรวจแถวกองทหารเกียรติยศและมีการบรรเลงเพลงชาติเวียดนามและฝรั่งเศส

หลังพิธีต้อนรับ ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เจรจากัน ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม แลกเปลี่ยนเอกสารความร่วมมือทวิภาคี และพบปะกับสื่อมวลชน

ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นประธานในพิธีต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง - ảnh 2ภาพการเจรจา

ในการเจรจา ผู้นำทั้งสองประเทศได้เห็นพ้องที่จะดำเนินการตามกลไกความร่วมมือที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิผล วิจัยการจัดตั้งกลไกความร่วมมือใหม่ๆ ดำเนินการตามข้อตกลงที่ลงนามกันต่อไปในด้านการกลาโหมและความมั่นคง รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดน ในโอกาสนี้ ประธานประเทศ เกลืองเกื่อง ได้เชิญผู้นำฝรั่งเศสเข้าร่วมพิธีลงนามอนุสัญญาของสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ ณ กรุงฮานอยในเดือนตุลาคมปี 2025

ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ผู้นำทั้งสองประเทศเห็นพ้องที่จะส่งเสริมการค้าและการลงทุน ปฏิบัติและใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม - สหภาพยุโรปอย่างมีประสิทธิภาพ ฝรั่งเศสจะผลักดันการให้สัตยาบันข้อตกลงการคุ้มครองการลงทุนระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนามโดยเร็ว เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปยกเลิก “ใบเหลือง” IUU สำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของเวียดนามโดยเร็ว และสร้างเงื่อนไขเพื่อให้เวียดนามเพิ่มการส่งออกอาหารทะเลไปยังตลาดฝรั่งเศสและสหภาพยุโรป

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะส่งเสริมความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นวัตกรรม ปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ และการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล โดยเฉพาะการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพสูง ขยายความร่วมมือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมการถ่ายทอดและความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

เวียดนามเสนอให้ฝรั่งเศสสนับสนุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาผ่านเงินทุน ODA และให้กู้เงินด้วยดอกเบี้ยพิเศษจากรัฐบาลให้แก่โครงการส่งเสริมความสามารถในการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและยกระดับคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ในด้านพลังงาน ฝรั่งเศสยังคงสนับสนุนเวียดนามในการดำเนินโครงการที่เป็นรูปธรรมในกรอบความร่วมมือการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่ยุติธรรมหรือ JETP

สำหรับปัญหาในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายต่างมีความสนใจ ประธานประเทศ เลืองเกื่อง ยืนยันว่า เวียดนามยึดมั่นนโยบายด้านกลาโหม “4 ไม่” ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยืนยันการสนับสนุนจุดยืนของอาเซียนในทะเลตะวันออก ทั้งสองฝ่ายย้ำว่า อนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี 1982 หรือ UNCLOS 1982 เป็นกรอบทางกฎหมายที่ครอบคลุมสำหรับกิจกรรมและความร่วมมือทั้งหมดในทะเลและในมหาสมุทร ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย และเสรีภาพในการเดินเรือและการบินในภูมิภาค การแก้ไขการพิพาทโดยสันติวิธีบนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และสนับสนุนความพยายามในการบรรลุ COC ที่มีประสิทธิภาพและจริงจังโดยเร็วตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ UNCLOS ปี 1982

ภายหลังการเจรจา ประธานประเทศ เลืองเกื่องและประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เป็นสักขีพยานในการส่งมอบเอกสารความร่วมมือในหลายด้าน เช่น กลาโหม ความมั่นคง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พลังงานนิวเคลียร์ ความยุติธรรม การขนส่ง การบินและอวกาศ การเกษตรและสิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข เป็นต้น

ประธานประเทศ เลืองเกื่อง เป็นประธานในพิธีต้อนรับและเจรจากับประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง - ảnh 3ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง

หลังการเจรจา ประธานประเทศ เลืองเกื่อง และประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวเพื่อแจ้งผลการเจรจา โดยประธานประเทศ เลืองเกื่อง เผยว่า เวียดนามและฝรั่งเศสได้ตกลงกันในแนวทางและมาตรการเพื่อกระชับความร่วมมือในหลายด้านระหว่างสองประเทศให้ลึกซึ้งมากขึ้น ในสภาวการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนอย่างซับซ้อน ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า เสาหลักของเศรษฐกิจ การค้า และความร่วมมือเพื่อการพัฒนายังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี บนเจตนารมณ์ดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่าจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาและเสริมสร้างการค้าเสรี เปิดตลาดให้แก่กันมากขึ้น และดำเนินการตามข้อตกลงการค้าเสรีเวียดนาม-สหภาพยุโรปหรือEVFTA อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ส่วนประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง ย้ำว่า การที่เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางแรกในการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของคณะผู้แทนระดับสูงของฝรั่งเศสถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับฝรั่งเศสนั้น “ไม่มีใครเทียบได้” ซึ่งมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประธานาธิบดีฝรั่งเศสยังยืนยันความปรารถนาที่จะเสริมสร้างความร่วมมือรอบด้านกับเวียดนามในยุคใหม่แห่งการพัฒนาของเวียดนาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด