อนุสัญญาฮานอย: นิมิตหมายทางประวัติศาสตร์
(VOVWORLD) - วันที่ 25 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ได้มีการเปิดพิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์หรืออนุสัญญาฮานอย ผู้เชี่ยวชาญนานาชาติหลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่า นี่เป็นก้าวเดินที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เปิดกรอบทางนิตินัยในระดับโลกเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์
บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม (VNA) |
อนุสัญญาฯ มี 9 บรรพ 71 มาตรา มีเนื้อหาเกี่ยวกับการระบุและลงโทษอาชญากรรมทางไซเบอร์ ความร่วมมือระหว่างประเทศ การแลกเปลี่ยนข้อมูล ความช่วยเหลือด้านตุลาการ การสืบสวนข้ามพรมแดน ความเท่าเทียม การเคารพสิทธิมนุษยชน การรักษาความสมดุลระหว่างความมั่นคงทางไซเบอร์กับความเป็นส่วนตัว การพัฒนาศักยภาพทางดิจิทัลและการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา นาง เสี่ยวหงหลี่ หัวหน้าสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNODC ได้ยืนยันถึงความหมายของอนุสัญญาฮานอยว่า
“การเปิตตัวอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์เป็นนิมิตหมายทางประวัติศาสตร์ นี่เป็นอนุสัญญาฉบับแรกที่เกี่ยวข้องกับธรรมาภิบาลไซเบอร์ โดยนำเสนอมาตรการและเครื่องมือที่ครอบคลุมหลายภาคส่วนเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์ อนุสัญญาฮานอยมีเนื้อหาสำคัญหลายประการที่ช่วยประสานกฎหมายระดับชาติเกี่ยวกับความผิดต่างๆ เช่น การฉ้อโกงทางออนไลน์ และกำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมาย”
ภาพในพิธี (VNA) |
ในขณะเดียวกัน นาย จอห์น แบรนโดลิโน ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสนธิสัญญาของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติได้ย้ำถึงองค์ประกอบของความร่วมมือข้ามพรมแดนในการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยยืนยันว่า อนุสัญญาฮานอยมีความหมายสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อสันติภาพและความมั่นคงของโลก นาย จอห์น แบรนโดลิโน กล่าวว่า หลังจากอนุสัญญาฯ มีผลบังคับใช้ ประเทศสมาชิกจะได้รับประโยชน์จากกลไกความร่วมมือข้ามพรมแดน รวมถึงความช่วยเหลือทางกฎหมายระหว่างกัน การส่งผู้ร้ายข้ามแดนและการสืบสวนร่วมกัน
นาง เสี่ยวหงหลี่ หัวหน้าสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (VNA) |
ภายหลังพิธีเปิดการลงนาม ณ กรุงฮานอย สหประชาชาติจะดำเนินการลงนามอนุสัญญาฯ ต่อไป ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐหรือสถานที่ที่ถูกกำหนด ขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการให้สัตยาบันภายในประเทศ โดยดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายภายในเพื่อให้สัตยาบันหรืออนุมัติอนุสัญญาฯ ภายในเวลา 90 วัน ตามข้อกำหนด อนุสัญญาฯ จะมีผลบังคับใช้หลังจากมีประเทศอย่างน้อย 40 ประเทศได้ลงนามและให้สัตยาบัน.