(VOVWORLD) - อนุสัญญาฮานอยซึ่งเป็นอนุสัญญาพหุภาคีระดับโลกว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงจิตใจแห่งความสามัคคีและการให้ความเคารพกฎหมาย
บรรดาผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุม |
พิธีลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ภายใต้หัวข้อ “การต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ – การแบ่งปันความรับผิดชอบ – มุ่งสู่อนาคต” ได้เปิดขึ้นในวันที่ 25 ตุลาคม ณ กรุงฮานอย โดยมีประธานประเทศ เลืองเกื่อง นาย อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ นาง กาดา ฟาธี อิสมาอิล วาลี ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNODC พร้อมหัวหน้าคณะผู้แทน ผู้นำประเทศสมาชิกสหประชาชาติและผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศเข้าร่วม
ในการกล่าวปราศรัยเปิดพิธีลงนามอนุสัญญาฮานอย ประธานประเทศ เลืองเกื่อง ได้ย้ำถึงความท้าทายของอาชญากรรมไซเบอร์ อนุสัญญาฮานอยซึ่งเป็นอนุสัญญาพหุภาคีระดับโลกว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์ ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงจิตใจแห่งความสามัคคีและการให้ความเคารพกฎหมาย หลังจากเจรจามาเป็นเวลา 5 ปี ความสำเร็จในวันนี้เป็นผลมาจากความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ สติปัญญาและความไว้วางใจระหว่างประเทศต่างๆ โดยได้เลือกใช้วิธีการเจรจาแทนการเผชิญหน้า ร่วมมือกันแทนการแบ่งแยก
อนุสัญญาฮานอยส่งสารสำคัญ 3 ประเด็นที่ชัดเจนและมีความหมายลึกซึ้งและยั่งยืนต่อโลก 1 คือ ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการกำหนดระเบียบวินัย การค้ำประกันความปลอดภัยและความมั่นคงในโลกไซเบอร์บนพื้นฐานของกฎหมายสากล 2 คือยกย่องจิตใจแห่งการแบ่งปัน การเดินพร้อมและการสนับสนุนกัน 3 คือย้ำถึงเป้าหมายสูงสุดของความพยายามทั้งหมดคือการปฏิบัติเพื่อประชาชน เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน การพัฒนานำมาซึ่งโอกาสให้แก่ทุกคน และไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลังในกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของโลก ประธานประเทศ เลืองเกื่อง ได้ยืนยันว่า
“สารทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์หลักของอนุสัญญาฮานอย ซึ่งเป็นอนุสัญญาแห่งการให้ความเคารพกฎหมาย ความร่วมมือและเพื่อประชาชน นี่คือแนวทางที่เวียดนามยึดมั่นปฏิบัติในกระบวนการผสมผสานเข้ากับกระแสโลก โดยยึดหลักกฎหมายเป็นรากฐาน ความร่วมมือเป็นพลังขับเคลื่อน ประชาชนเป็นศูนย์กลางและเป้าหมายของทุกความพยายาม การที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดพิธีลงนามและเป็นประเทศแรกที่ลงนามอนุสัญญาฮานอยเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าต่อการให้ความเคารพกฎหมาย การปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างครบถ้วน และการมีส่วนร่วมต่อการเสริมสร้างระเบียบกฎหมายระดับโลกเกี่ยวกับไซเบอร์”
ประธานประเทศ เลืองเกื่อง กล่าวปราศรัยเปิดพิธีลงนามอนุสัญญาฮานอย |
ประธานประเทศ เลืองเกื่อง ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกให้สัตยาบันอนุสัญญาฯ เพื่อให้สามารถมีผลบังคับใช้โดยเร็ว เพื่อสร้างระเบียบดิจิทัลที่ยุติธรรมและครอบคลุม
ส่วนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้ยืนยันว่า อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์เป็นเอกสารสำคัญ เป็นนิมิตหมายแห่งความพยายามระดับนานาชาติครั้งแรกในรอบกว่า 2 ทศวรรษในการสร้างกลไกการป้องกันร่วมกันเพื่อต่อต้านอาชญากรรมไซเบอร์
“อนุสัญญาฉบับนี้เป็นคำมั่นที่จะปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงความเป็นส่วนตัว ศักดิ์ศรีและความปลอดภัย ทั้งในโลกกายภาพและในโลกดิจิทัล อนุสัญญาฉบับนี้เป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของลัทธิพหุภาคี ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เมื่อประเทศต่างๆ ร่วมมือกัน เราจะสามารถหาทางออกให้กับความท้าทายระดับโลกได้”
ผู้อำนวยการบริหารสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติหรือ UNODC กาดา ฟาธี อิสมาอิล วาลี ยืนยันว่า UNODC จะยังคงให้การสนับสนุนประเทศสมาชิกอต่อไป เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย ยุทธศาสตร์ การสร้างสรรค์และพัฒนาศักยภาพระดับชาติด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล และการส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ UNODC จะทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมภาคีอนุสัญญาในอนาคต ตามแผนการ ประเทศสมาชิกอนุสัญญาฯจะประชุมกันในเดือนมกราคมปีหน้า ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบสำหรับประเทศที่เข้าร่วมการประชุมในอนาคต.