ภาพการประชุม

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับการประเมินของประเทศต่างๆ เกี่ยวกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน และย้ำว่า อาเซียนต้องมีทัศนะที่เสมอต้นเสมอปลาย ยึดมั่นแนวทางแห่งการเจรจาแทนการเผชิญหน้า ร่วมมือกันแทนการแข่งขัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแทนการแบ่งแยก และพึ่งตนเองแทนการพึ่งพาอาศัยกัน อาเซียนจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามัคคีภายใน ส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลาง และธำรงความสัมพันธ์ที่สมดุลกับประเทศใหญ่ ๆ ผ่านการใช้ประโยชน์จากกลไกที่มีอยู่ของอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้แสดงความกังวลต่อผลกระทบของนโยบายภาษีที่มีต่อประเทศต่างๆ รวมถึงอาเซียน โดยย้ำว่า นี่เป็นโอกาสที่อาเซียนจะส่งเสริมความเป็นอิสระ การพึ่งตนเอง และการปรับโครงสร้างความสัมพันธ์ทางการค้า อาเซียนจำเป็นต้องให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ ต่อการเสริมสร้างความแข็งแกร่งภายในและการขยายด้านความร่วมมือผ่านการเพิ่มการค้าและการลงทุนภายในกลุ่ม การเพิ่มแรงกระตุ้นการเติบโตใหม่ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล การเปลี่ยนแปลงสีเขียว การส่งเสริมการบริโภคภายในกลุ่ม การใช้ประโยชน์จากพลังขับเคลื่อนแห่งการเติบโตใหม่ นายกรัฐมนตรีแสดงการสนับสนุนให้จัดทำกรอบความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียนให้แล้วเสร็จตามกำหนด การยกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของอาเซียนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง แสดงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในทะเลตะวันออก และย้ำอีกครั้งว่า อาเซียนจำเป็นต้องพยายามมากขึ้นเพื่อยืนยันบทบาทการเป็นศูนย์กลางในปัญหาทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาค และเรียกร้องให้อาเซียนรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและจุดยืนต่อหลักการเกี่ยวกับทะเลตะวันออกต่อไป สำหรับสถานการณ์ในเมียนมาร์ นายกรัฐมนตรีฝ่ามมิงชิ้ง ชื่นชมการปฏิบัติในเชิงรุกและทันท่วงทีของประธานอาเซียนในการส่งเสริมบทบาทของคนกลาง รวมถึงการติดต่อกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งเสริมฉันทามติ 5 ข้อ.