นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานรัฐสภาสวีเดน Andreas Norlen

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ยืนยันว่า การเยือนครั้งนี้จะช่วยสร้างแรงผลักดันในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสองประเทศ และทำให้ความสัมพันธ์พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ ทั้งสองฝ่ายจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างกันในการพัฒนาความสัมพันธ์กับอาเซียนและสหภาพยุโรป

นายกรัฐมนตรีเวียดนามเสนอให้รัฐสภาสวีเดนช่วยผลักดันให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปที่เหลือให้สัตยาบันข้อตกลงคุ้มครองการลงทุนของสหภาพยุโรป-เวียดนามหรือ EVIPA และให้คณะกรรมาธิการยุโรปหรืออีซียกเลิกใบเหลือง IUU สำหรับสัตว์น้ำส่งออกของเวียดนามโดยเร็ว นอกจากนี้ เวียดนามจะสนับสนุนให้สถานประกอบการเทคโนโลยีขั้นสูงลงทุนในสวีเดน จากความสนใจของตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆในรัฐสภาเกี่ยวกับสถานการณ์ในเวียดนาม นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ย้ำว่า เอกราช เสรีภาพ ความเจริญรุ่งเรืองและความอิ่มหนำผาสุกของประชาชนเป็นเป้าหมายของพรรคและรัฐเวียดนามอยู่เสมอ เวียดนามเห็นพ้องกับสวีเดนว่า การค้ำประกันชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกและเสรีภาพคือประชาธิปไตยสูงสุด

ส่วนประธานรัฐสภา Andreas Norlen ประเมินว่า ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศพัฒนาอย่างดีงาม ซึ่งรวมถึงการเจรจาและความร่วมมือระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ สวีเดนเป็นประเทศตะวันตกประเทศแรกที่รับรองและสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเวียดนาม และปัจจุบัน สวีเดนพร้อมที่จะร่วมมือเพื่อช่วยให้เวียดนามบรรลุเป้าหมาย 100 ปีในการเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงภายในปี 2045

บ่ายวันเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้พบปะกับเจ้าฟ้าหญิงวิกตอเรีย มกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดนและพระสวามี และได้ไปเยี่ยมครอบครัวของอดีตนายกรัฐมนตรีสวีเดน Olof Palme ผู้ล่วงลับ.