เวียดนามตั้งใจป้องกันและต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูง
(VOVWORLD) - บ่ายวันที่ 27 มีนาคม ณ กรุงฮานอย สำนักงานประสานงานแห่งชาติเวียดนามว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านการเผยแพร่อาวุธทำลายล้างสูงได้จัดการประชุมสรุปผลในเบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติมติที่ 81 ของรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูงระยะปี 2019-2024 ซึ่งเป็นเอกสารทางนิตินัยฉบับแรกที่ระบุโดยตรงและสมบูรณ์เ
ตัวแทนของกลุ่มขณะที่ได้รับหนังสือชมเชยจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (Photo Boquocphong) |
อันเป็นเอกสารทางนิตินัยฉบับแรกที่ระบุโดยตรงและสมบูรณ์เกี่ยวกับการป้องกันและต่อต้านการเผยแพร่อาวุธคือ อาวุธชีวภาพ อาวุธเคมี อาวุธนิวเคลียร์และสารกัมมันตรังสี
รายงานของการประชุมระบุว่า ในระยะปี 2019-2024 การปฏิบัติภารกิจป้องกันและต่อต้านอาวุธที่ทำลายล้างสูงตั้งแต่เนิ่นๆ และจากไกลของเวียดนามได้ประสบผลที่น่ายินดีต่างๆ โดยกระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามได้ประสานงานกันอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติมาตรการพร้อมเพรียงต่างๆ เพื่อปฏิบัติมติที่ 81 อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนความตั้งใจทางการเมืองของเวียดนามในการป้องกันและต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูง ยืนยันนโยบายที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามและสนับสนุนความพยายามของโลกในการมุ่งสู่การปลดอาวุธที่ทำลายล้างสูงอย่างสมบูรณ์และเด็ดขาด พันตรี ห่าวันกื่อ ผู้บัญชาการหน่วยเคมี หัวหน้าสำนักงาน 81 ยืนยันว่า
“การชี้นำและการประสานงานต้องการการเข้าร่วมของกระทรวงและหน่วยงานหลายแห่ง เราให้คำปรึกษาต่อรัฐบาลเพื่อจัดทำโครงการปฏิบัติแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านอาวุธทำลายล้างสูง รวมทั้งประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับการอุปถัมภ์ก่อการร้าย ประสานกับธนาคารชาติในการต่อต้านการฟอกเงิน ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามเพื่อออกเสียงที่ยืนยันความเป็นประเทศที่ใฝ่สันติภาพ ปฏิบัติอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ ที่เวียดนามเป็นภาคีว่าด้วยปัญหานี้อย่างเข้มแข็ง”
ปัจจุบันนี้ เวียดนามกำลังจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและต่อต้านการเผยแพร่อาวุธทำลายล้างสูง ซึ่งช่วยให้เวียดนามปฏิบัติหน้าที่ในด้านนี้ตามอนุสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ ที่เวียดนามเป็นภาคีและมติที่ 1540 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
มติที่ 1540 เปิดตัวเมื่อปี 2004 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยับยั้งนิติบุคคลที่ไม่ใช่ของรัฐเข้าถึงอาวุธนิวเคลียร์ อาวุธเคมี อาวุธชีวภาพและยานพาหนะขนส่งอาวุธที่ทำลายล้างสูง พร้อมทั้งผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านนี้