เวียดนามแอร์ไลน์ต้องพัฒนาทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยั่งยืนและเต็มเอกลักษณ์
(VOVWORLD) - นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งเครือบริษัทการบินเวียดนามหรือเวียดนามแอร์ไลน์ 27 พฤษภาคม ซึ่งจัดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 1 มิถุนายน ณ กรุงฮานอย
 นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ในพิธีฉลองครบรอบ 30 ปีการก่อตั้งเครือบริษัทการบินเวียดนามหรือเวียดนามแอร์ไลน์ |
ในการกล่าวในพิธี นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่าเวียดนามแอร์ไลน์ต้องพัฒนาทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวดเร็ว ยั่งยืน ปลอดภัย และเต็มไปด้วยเอกลักษณ์ และกำชับว่า ในเวลาที่จะถึง เวียดนามแอร์ไลน์ต้องเกาะติดสถานการณ์และแนวโน้มการพัฒนาของโลก เพื่อควบคุมและใช้ประโยชน์จากโอกาสในการพัฒนา เปลี่ยนแปลงใหม่แนวคิด มีความคิดสร้างสรรค์ ระดมพลังทุกแหล่ง ไม่เพียงแต่ภายในระบบนิเวศของสายการบินเวียดนามเท่านั้น หากยังรวมถึงพลังที่เข้มแข็งของประชาชน สังคม และสถานประกอบการอื่นๆ อีกด้วย มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เวียดนามแอร์ไลน์ต้องพัฒนาในระดับโลก เชื่อมโยงเวียดนามกับโลก เชื่อมโยงเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน
 ภาพในงาน |
นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง เสนอให้เวียดนามแอร์ไลน์เร่งปรับโครงสร้างองค์กรอย่างครอบคลุม และใช้แหล่งพลังที่ได้รับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพตามข้อกำหนดของกฎหมาย พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย ปรับปรุงการให้บริการ การสร้างสรรค์แถวขบวนเจ้าหน้าที่พนักงานและแรงงานที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบริการ ทักษะความสามารถ ความกระตือรือร้นและความหลงใหลที่นับวันเพิ่มสูงขึ้น การใช้กลไก การบริหารจัดการทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยและการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมยกระดับคุณภาพการให้บริการ ประสบการณ์ของลูกค้าและการลดต้นทุน
 ภาพในพิธี |
ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างโครงการ CMC Creative Space – CCS Hanoi ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายเชิงยุทธศาสตร์ของเครือบริษัทเทคโนโลยี CMC ไม่เพียงแต่ในด้านขนาดการลงทุนเท่านั้น หากยังรวมถึงแนวทางการพัฒนาในระยะยาวอีกด้วย
นายกรัฐมนตรีมีความประสงค์ว่า เครือบริษัท CMC จะกลายเป็นเครือบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่มีส่วนร่วมในการผลิตและห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก เสนอให้เครือบริษัทฯปฏิบัติงานด้านสวัสดิการสังคมเป็นอย่างดี ค้ำประกันความเป็นธรรมและความเสมอภาคในการเข้าถึงเทคโนโลยี โดยเฉพาะสำหรับผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ห่างไกลและไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง.