บ่าเหรียะ-หวุงเต่าส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการเกษตร

(VOVWORLD) - จังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์อย่างเข้มแข็งทั้งในการผลิต การแปรรูปและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ซึ่งทำให้ภาคการเกษตรของจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าเปลี่ยนจากวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ที่ทันสมัย ซึ่งมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาจังหวัดฯ
บ่าเหรียะ-หวุงเต่าส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการเกษตร - ảnh 1ชาวนาในจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าใช้โดรนเพื่อพ่นสารเคมีชีวภาพเพื่อดูแลสวนผัก (VTCNews)
 
 

ในแผนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตร ในเวลาที่ผ่านมา สำนักงานการเกษตรและพัฒนาชนบทของจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าได้ทดลองใช้แอพพลิเคชันติดตามการเพาะปลูกในผู้ประกอบการด้านการเกษตร กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มร่วมมือผลิตและเพาะปลูกในจังหวัดฯ พร้อมทั้ง แบ่งปันข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ของจังหวัดฯให้แก่สำนักงานการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ ไปรษณีย์จังหวัดฯ และไปรษณีย์ Viettel สาขาจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าเพื่อสนับสนุนการสร้างบัญชีดิจิทัลและร้านบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จากการตระหนักถึงประสิทธิภาพของอีคอมเมิร์ซ ครัวเรือนเกษตรกรจำนวนมากจึงมีความต้องการนำผลิตภัณฑ์ของตนไปแนะนำผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ นาย เหงวียนกิมเจวียน ผู้อำนวยการสหกรณ์การเกษตรเกวี๊ยตทั้ง แขวงลองเฮือง เมืองบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ที่ประกอบธุรกิจด้านสัตว์น้ำเผยว่า

“ในยุคอุตสาหกรรม 4.0 เราต้องปฏิบัติตามยุคสมัยเพื่อค้ำประกันความต้องการ อีกทั้ง ลดด้านที่เราต้องบริหารเมื่อก่อนด้วย ในด้านการบริโภค ทางสหกรณ์ฯยังได้นำไปขายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นความก้าวหน้าในการผลิตและการก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้การเกษตรสามารถผสมผสานเข้ากับยุค 4.0 นี้”

นอกจากการนำผลิตภัณฑ์จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแล้ว สำนักงานการเกษตรและการพัฒนาชนบทยังสนับสนุนสถานประกอบการในการใช้ระบบระบุแหล่งที่มาผ่านการสแกน QR code เพื่อทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของสินค้ามีความโปร่งใส ตอบสนองข้อกำหนดที่เข้มงวดของตลาดส่งออก ตามความเห็นของนาย ฟานเท้แหว่ง ผู้อำนวยการสหกรณ์บริการการเกษตรเญินเติมในตำบลหว่าเหียบ อำเภอเซวียนหมก  สำหรับตลาดที่มีข้อกำหนดที่เข้มงวด เช่น สหภาพยุโรป ญี่ปุ่นและสหรัฐ การตรวจแหล่งที่มาของสินค้าถือเป็นข้อกำหนดบังคับสำหรับสินค้าเกษตรที่ส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้ ตั้งแต่ปี 2023 สหกรณ์เญินเติมได้รับการรับรองรหัสพื้นที่ปลูกเพื่อส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยกรมอารักขาพืช นอกจากนี้ ทางสหกรณ์ฯยังประยุกต์ใช้การบันทึกการผลิต การใส่ปุ๋ย การรดน้ำและวันเก็บผลผลิตผ่านแอพพลิเคชันเพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการส่งออกแต่ละครั้ง นอกจากนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของหุ้นส่วนญี่ปุ่น สหกรณ์ได้ใช้ซอฟต์แวร์ Sorimachi ของญี่ปุ่นเพื่อบันทึกการผลิตสำหรับสวนลำไย กรมอารักขาพืชได้สนับสนุนการเปิดการฝึกอบรมให้แก่สมาชิกของสหกรณ์ในการป้อนข้อมูลปุ๋ย ยาฆ่าแมลงที่ใช้ในแต่ละวันและจำนวนผลผลิตที่เก็บได้ลงในแอพฯในโทรศัพท์ นาย ฟานเท้แหว่ง เผยว่า

“การจัดทำรหัสพื้นที่ปลูกนำผลประโยชน์และคุณค่าทางเศรษฐกิจสูงเพื่อบริหารการเพาะปลูก อีกทั้ง ทำให้หุ้นส่วนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการตอบสนองความต้องการของพวกเขา”

ในรอบ 2 ปีมานี้ นาง หวูถิถุ่ย ในตำบลเตินฮึง เมืองบ่าเหรียะ-หวุงเต่า ได้ถ่ายทำคลิปวิดีโอแนะนำสวนผักที่ครอบครัวของเธอปลูกเองและผลิตภัณฑ์ผักปลอดสารพิษ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก นาง ถุ่ย แสดงความเห็นว่า ทุกอาชีพจำเป็นต้องทำการประชาสัมพันธ์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อเพิ่มยอดขาย และเกษตรกรเช่นเธอก็ไม่มีข้อยกเว้น นาง ถุ่ย ได้เข้าร่วมการฝึกอบรมเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซเพื่อเรียนรู้วิธีการถ่ายทำคลิปวิดีโอเพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“นับตั้งแต่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การขายสินค้ามีประสิทธิภาพมากและขายได้มากขึ้น โดยเฉพาะต้นหอมของเราได้ขายให้แก่ลูกค้าโดยตรง หลายคนส่งข้อความและโทรมาสั่งซื้อ ดิฉันจึงรู้สึกว่า การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการขายมีประสิทธิภาพมาก”

บ่าเหรียะ-หวุงเต่าส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการเกษตร - ảnh 2นาย เหงวียนกิมเจวียน ผู้อำนวยการสหกรณ์การเกษตรเกวี๊ยตทั้ง แขวงลองเฮือง เมืองบ่าเหรียะ-หวุงเต่า (VNA)

เพื่อให้การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกปี สมาคมเกษตรกรจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าได้ประสานงานกับสำนักงานต่างๆ เพื่อเปิดชั้นเรียนฝึกอบรมต่าง ๆเพื่อยกระดับความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลในด้านการเกษตรให้แก่เจ้าหน้าที่และสมาชิกของสมาคมเกษตรกร ควบคู่กันนั้น ก็มีการผลักดันให้สถานประกอบการและสหกรณ์เข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล จัดทำโครงการและรูปแบบการเชื่อมโยงตามห่วงโซ่คุณค่า ในจังหวัด รูปแบบการเกษตรที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและการเกษตรอัจฉริยะกำลังปรากฏมากขึ้นในขั้นตอนต่างๆ เช่น การรวบรวมข้อมูล การแก้ไขฐานข้อมูล การจัดเก็บและการบริหารติดตามขั้นตอนการผลิต การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการเกษตรไม่เพียงแต่ช่วยให้สหกรณ์  ชาวสวนและสถานประกอบการบริหารกระบวนการทางเทคนิค การเพาะปลูก ข้อมูลโรคพืชและการระบุแหล่งที่มาเท่านั้น หากยังสนับสนุนในการทำธุรกรรม การขาย การแนะนำผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มโซเชียลและอีคอมเมิร์ซอีกด้วย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีความใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้นและช่วยเพิ่มรายได้ นาย เจิ่นวันหมาง รองประธานสมาคมเกษตรกรจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่าเผยว่า

“สมาคมเกษตรกรทุกระดับได้เป็นฝ่ายรุกในการให้คำแนะนำแก่พรรคสาขาในท้องถิ่นเพื่อปฏิบัติโครงการและนโยบายสนับสนุนเกษตรกรอย่างพร้อมเพรียงและมีประสิทธิภาพเพื่อกระตุ้นเกษตรกรให้เข้าร่วมการประยุกต์วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างเข้มแข็งเพื่อร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตรและช่วยสร้างฐานะ”

การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาการเกษตรในจังหวัดบ่าเหรียะ-หวุงเต่ากำลังพัฒนาอย่างเข้มแข็ง สร้างแนวทางใหม่ มีส่วนร่วมเปลี่ยนจากการผลิตที่เน้นในด้านปริมาณไปสู่ด้านคุณภาพ เพิ่มมูลค่าการผลิต ลดต้นทุนและผลกระทบในทางลบต่อสิ่งแวดล้อม.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด