บูธของอินโดนีเซีย

เมื่อยืนอยู่หน้าบูธของอินโดนีเซีย ผู้เยี่ยมชมก็สามารถสัมผัสถึงวัฒนธรรมอิสลามผ่านเมนูอาหารฮาลาลที่ปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน กลิ่นหอมกรุ่นของข้าวผัดนาซิโกเร็ง nasi goreng  ซุปเนื้อบักโซ bakso ในหม้อร้อนๆ พร้อมหัวหอมทอดและพริกไทย ซึ่งเป็นเครื่องเทศที่เป็นเอกลักษณ์ของหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไก่ย่าง sate ayam บนเตาถ่านร้อน ๆ ที่หอมกลิ่นตะไคร้และกระเทียม บรรดาเจ้าหน้าที่หญิงของสถานเอกอัครราขทูตอินโดนีเซียกำลังทำอาหารอย่างรวดเร็ว บางคนตักข้าว บางคนเติมไข่ บางคนอธิบายข้อมูลอาหารแต่ละจานด้วยรอยยิ้มแจ่มใส นางสันติ เจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรมของสถานทูตอินโดนีเซียประจำประเทศเวียดนาม เผยว่า

“พวกเราดีใจมากที่วันนี้ มีทั้งชาวอินโดนีเซียที่กำลังอาศัยอยู่ในกรุงฮานอยและชาวเวียดนาม รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินมาเยี่ยมชมบูธของอินโดนีเซีย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลิ้มลองอาหารฮาลาล ฉันเห็นว่า sate ayam และ bakso ได้รับความนิยมอย่างมาก”

ซุปเนื้อบักโซ bakso

ต่อจากบูธของอินโดนีเซีย ก็เป็นบูธของมาเลเซียที่มีเมนูเด่นคือ nasi lemak ซึ่งเป็นอาหาร “ประจำชาติ” ที่ประกอบด้วยข้าวมันมะพร้าวและซอส sambal รสเผ็ด ขณะที่กำลังเตรียม nasi lemak ร้อน ๆ ลงในกล่อง เพื่อส่งให้ลูกค้าคนหนึ่ง นาง Aida Safura Niza Othman ได้เล่าถึงอาหารมาเลเซียอื่น ๆ ที่แนะนำในงานเทศกาลครั้งนี้

“วันนี้ พวกเราแนะนำเมนูข้าวที่ขึ้นชื่ออย่าง nasi lemak และ sate ayam พร้อมชาชัก teh tarik ซึ่ง nasi lemak เป็นอาหารที่ชาวมาเลเซียชอบรับประทานกันทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และมื้อเย็น”

บูธของฟิลิปปินส์

แม้อาหารแต่ละประเทศจะมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตน แต่อาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็ยังคงมีจุดที่คล้ายคลึงกันซึ่งเป็นผลจากวัฒนธรรมการปลูกข้าวที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามบูธต่าง ๆ ของบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้เข้าชมงานสามารถเห็นอาหารที่มีส่วนประกอบของข้าวเหนียว เช่น ข้าวเหนียวไก่ย่างของลาว ข้าวเหนียวมะม่วงของไทย หรือข้าวเม่าของเวียดนาม นายอาทิตย์ สามพายวรกิจ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย เผยว่า

“อาหารไทยมีชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งพวกเรามีความคล้ายคลึงกับอาหารเวียดนามหลายอย่าง โดยมีการใช้เครื่องเทศที่คล้าย ๆ กัน เช่น น้ำปลา ในการปรุงอาหาร วันนี้ พวกเราได้เตรียมเมนูอาหารอย่างข้าวเหนียวมะม่วง ชาไทย และผัดไทย ซึ่งก็สามารถขายได้หมดภายในช่วงเช้า”

ความหลากหลายของอาหารอาเซียนช่วยให้ผู้มาเยือนทั้งได้ลิ้มรสชาติอันแสนอร่อย ได้ทราบประวัติความเป็นมาและกล่าวชื่นชมความอุดมสมบูรณ์ของอาหารการกินของภูมิภาคนี้

“นี่คือเบียร์ลาวกับหมูย่างเสียบไม้ของฟิลิปปินส์ เบียร์ลาวมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าเบียร์เวียดนามเล็กน้อย ส่วนเนื้อย่างของฟิลิปปินส์มีมันเยอะและซอสที่อร่อย ออกหวานนิด ๆ  ซึ่งถูกใจฉันมาก ดังนั้น ฉันจึงมาซื้อในงานนี้ทุกปี”

“ฉันมีความสุขมาก เพราะมาที่นี่ ฉันได้ลิ้มลองอาหารจากหลายประเทศทั่วโลก ฉันชอบขนมข้าวโพดทอด Bahwan jagung ของอินโดนีเซียเป็นพิเศษ มันเป็นอาหารที่เรียบง่าย แต่มีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์”

“ฉันชอบเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องอาหาร ซึ่งในงานเทศกาลครั้งนี้ ฉันได้รู้จักอาหารอีกหลายอย่าง สำหรับฉันเอง งานเทศกาลนี้มีความหมายอย่างมาก เพราะทำให้ฉันมีมุมมองและความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนได้ดีขึ้น”

บูธของลาว

เทศกาลอาหารไม่เพียงแค่เป็นโอกาสให้ประเทศต่าง ๆ ประชาสัมพันธ์รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของอาหารเท่านั้น แต่ยังสร้างความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม พร้อมเสริมสร้างจิตใจแห่งความสามัคคีและมิตรภาพอีกด้วย นายอาทิตย์ สามพายวรกิจ อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงฮานอย เผยว่า

“ทุก ๆ ปี พวกเราได้เข้าร่วมงานเทศกาลอาหาร เพื่อแสดงความสามัคคีกับชาวเวียดนาม โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในเขตภาคกลางของเวียดนาม พวกเราจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากงานครั้งนี้ไปช่วยเหลือผู้คน นอกจากนั้น กิจกรรมนี้ยังช่วยสร้างความเชื่อมโยงด้านวัฒนธรรมและผู้คนในภูมิภาคอีกด้วย”

การแสดงศิลปะของลาว

นอกจากเรื่องอาหารแล้ว กลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมการแลกเปลี่ยนและการแสดงด้านวัฒนธรรมมากมาย ซึ่งผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประเพณีต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมถ่ายภาพในชุดพื้นเมืองและพูดคุยกับตัวแทนของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ งานเทศกาลอาหารนานาชาติปี 2025 ได้ยืนยันถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมอาหารอาเซียนที่มีเรื่องราวและเอกลักษณ์ที่น่าค้นคว้า./.