(VOVWORLD) - อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็น ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2536 โดยผลงานของอาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยดั้งเดิมและโลกสมัยใหม่ แนวคิดทางสังคมและการใช้ฉันทลักษณ์ที่งดงาม เช่น ผลงาน“เขียนแผ่นดินสุวรรณภูมิเวียดนาม” คือผลงานสารคดีกวีนิพนธ์เป็นการค้นพบดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ วัฒนธรรมมรดกโลก ล่องไหลในสายน้ำ เลาะเลียบผาสูงไปกับบทกวี ร้อยเรียงโดยศิลปินแห่งชาติ ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน สงคราม ประวัติศาสตร์ ที่ผันผ่านจวบจนปัจจุบัน
อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามประจำประเทศไทย |
หมื่นภูพลิ้วทิวเทือกลงเกลือบน้ำ
หมื่นมังกรเริงรำชลาสินธุ์
ชะลอเมฆมาห่มในลมริน
ระลอกริ้วพริ้วพิณบรรเลงภู
รายรอบขอบคุ้งพระคงคา
ดั่งจะเชิญวิญญาณให้มาอยู่
ให้มาเยือนเยี่ยมวิมานอันตราตรู
อันสองตามิพอดูอยู่รอบล้อม
ผาตั้งผาแต่งกำแพงผา
แดดลาลมหอบทะเลหอม
วุ้งเวิ้งเซิงทรายกระจายจอม
กระโจมผามาน้อมมาแนบน้ำ
เขียวเข้มขับใสประกายสด
มงกุฎมรกตระชดฉ่ำ
ใจมังกรใจคนทนทานทำ
โลดลำ มหาชลา อ่าวฮาลองฯ
ท่านกำลังฟังอาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ อ่านบทกวี “อ่าวฮาลอง” ในผลงานสารคดีกวีนิพนธ์“เขียนแผ่นดินสุวรรณภูมิเวียดนาม” จำนวน 40 ตอน ซึ่งเป็นผลการเที่ยวเวียดนาม 5 ครั้งตั้งแต่ปี 2013 และสะท้อนความรักของอาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ต่อประเทศเวียดนาม
“ก็ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของเวียดนามอย่างลึกซึ้งแท้จริง ไม่ใช่ไปทำเพื่อมาโฆษณาประสัมพันธ์ให้ประเทศ ไม่ใช่เลย ต้องไปดื่มด่ำลึกซึ้งกับวิถีชีวิต ภูมิทัศน์คือทิวทัศน์ ของดีๆ ของเวียดนาม ซึ่งผมก็ได้อย่างนั้นจริงๆ เพราะว่า ได้ไปพบกับผู้คน วัฒนธรรม อย่างผมไปที่หมู่บ้านต๊าวัน เขาก็แสดงให้ดู ผมก็ได้ไปเขียนหนังสือว่า เขียนบทกวีประทับใจทันทีว่า
สุมฟืนให้สุมไฟ
สุมฟืนให้แสงไฟให้แสงสาดประกายดาว
อย่าใส่ในตาสาวและคนหนุ่มผู้ทรนง
อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์กับอาจารย์ ทิวารี โฆษิตธนเกียรติ จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้แปลบทกวีเป็นภาษาเวียดนาม |
ทั้งนี้ อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้ไปหาแรงบันดาลใจในท้องถิ่นต่างๆ จากเหนือจรดใต้ของเวียดนาม เช่น ปราสาทหมีเซินที่มีอิทธิพลของทางอินเดียใต้ ทะเลทรายสีขาวสีแดงใน Mui Ne แม่น้ำหอมแสนโรแมนติกในนครเว้และนครโฮจิมินห์ที่ทันสมัย โดยมีทีมถ่ายทำและมีศิลปินเขียนรูปเพื่อนำไปเผยแพร่ผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 และช่อง Youtube ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศฯ สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อช่วยให้ประชาชนไทยมีความเข้าใจภาพลักษณ์ประเทศ ดนตรีและศิลปะของเวียดนาม
“ต่อไป การที่จะเชื่อมสัมพันธ์กันระหว่างประเทศไม่ใช่เฉพาะเรื่องธุรกิจ การเมือง การค้า ไม่ใช่ เรื่องศิลปะมันเป็นเรื่องของประชาชนถึงประชาชนโดยตรง เรานึกไม่ถึงเลยว่า เวียดนามมีงานศิลปะเยอะแยะ เช่น ที่เมืองดาลัด ได้เห็นว่า อนุสาวรีย์ของกวีห่านหมักตื๋อ ซึ่งก็มีงานเขียนลายมือของห่านหมักตื๋อที่ก็ตายไปแล้ว มันดีนะ หมายความว่า ตอนยังมีชีวิตอยู่ก็มีคนยกย่องและเมื่อตายไปแล้วคนก็ยกย่องเชิดชู เมืองไทยมันไม่มีเรื่องเหล่านี้”
อาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์กับผู้อ่าน |
ทั้งนี้ ผลงาน“เขียนแผ่นดินสุวรรณภูมิเวียดนาม”และอาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ได้ช่วยให้ภาพลักษณ์ประเทศเวียดนามใกล้ชิดกับประชาชนไทยมากขึ้นและส่งสารเกี่ยวกับวรรณกรรมสานสัมพันธ์อาเซียนดั่งคำยืนยันของรศ.ดร. ตรีศิลป์ บุญขจรจากสำนักวิชาศลปกรรมว่า
“งานของคุณ เนาวรัตน์ทำให้เห็นว่า วรรณศิลป์นั้นสร้างมิตรไมตรี เราสามารถที่จะเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างประเทศได้ผ่านวรรณศิลป์ คิดว่า นี่เป็นลักษณะที่เด่นมากของบทกวีชุดนี้ ก็อีกสักบทหนึ่งซึ่งจะแทนความรู้สึกนี้เลย เป็นบทที่ชื่อว่า สัมพันธ์ไทย-เวียดนาม อันนี้จะเรียกว่า บทที่เป็นหัวใจสำคัญของการนำเรื่องบทกวีนี้"
ไม่ใช่ญาติได้มาเยือนก็เหมือนญาติ
เราต่างมีประวัติศาสตร์ที่สืบสาว
ประสานสายสัมพันธ์อันนานยาว
ด้วยเรื่องราวของแผ่นดินอุษาคเนย์
พญาแถนแมนสรวงมาเสกสร้าง
อาณาจักรล้านช้างอันทรงเสน่ห์
สายน้ำของล่องไหลสู่ทะเล
สายน้ำใจไหลเทเวียดนามไทย
คารวะวีรชนคนกล้าหาญ
สร้างตำนานสร้างยุคมาทุกสมัย
สร้างโลกให้สันติสุขผ่านทุกข์ภัย
ต้องรวมใจ ทุกใจ เป็นใจเดียว
จงสัมพันธ์ เวียดนามไทยไม่กลับกลาย
จงร่วมมือเป็นมัดหวายให้แน่นเหนียว
สร้างอุษาคเนย์นิยมร่วมกลมเกลียว
ร่วมแรงเรี่ยวร่วมใจ ไทย–เวียดนาม
ทั้งนี้ ผลงาน“เขียนแผ่นดินสุวรรณภูมิเวียดนาม” เปรียบเสมือนทัวร์ตามรอยของอาจารย์ เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ไปเวียดนามเพื่อสัมผัสประเทศ ดนตรี ศิลปะเวียดนามและสัมพันธไมตรีที่อบอุ่นระหว่างสองประเทศ.