พระราชวัง บ๋าวด๋าย นิมิตหมายแห่งกาลเวลากลางป่าสน ดาลัด จังหวัดเลิมด่ง
Thế Hùng -  
(VOVWORLD) -ท่ามกลางสายลมเย็นสบายในที่ราบสูง เลิมเวียน กลางป่าสนเขียวขจี มีคฤหาสน์หลังหนึ่งที่ตั้งอยู่อย่างสงบมานานกว่า 80 ปี นี่เป็นสถานที่ที่กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์เหงียน และก็เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายในยุคศักดินาของเวียดนามเคยประทับและทรงงาน ซึ่งรู้จักกันทั่วไปคือพระราชวังฤดูร้อน บ๋าวด๋ายอัญมณีโบราณแห่งดาลัดที่แสนโรเเมนติก
เดินตามถนนเล็กๆที่คดเคี้ยวผ่านป่าสนขึ้นสู่เนินเขา Ái Ân ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบายพร้อมกลิ่นยางสนลอยมาตามลมก็ถึงวังหลวงที่ 3 แห่งดาลัต หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระราชวังฤดูร้อน บ๋าวด๋าย ที่สง่างาม เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ประตูพระราชวัง ผู้มาเยือนก็จะรู้สึกเหมือนเดินหลงเข้าไปในอีกโลกหนึ่งที่ทิวทัศน์ที่ทั้งหรูหรา ทั้งสงบสุข และแสนโรเเมนติก คุณดิงห์ ถิ เฟือง นักท่องเที่ยวจากเตวียนกวาง ที่มาเที่ยวดาลัดเป็นครั้งแรกก็รู้สึกทึ่งและประทับใจในความงดงามของสถาปัตยกรรมและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของพระราชวังแห่งนี้
“นี่เป็นครั้งแรกที่ดิฉันมาเที่ยวที่นี่ ซึ่งนอกจากมาเยี่ยมชมก็ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์เพิ่มเติม พระราชวังแห่งนี้ มีสถาปัตยกรรมสวยงามมาก เมื่อพูดถึงการออกแบบตามกระแสก็ต้องบอกว่าตั้งแต่ช่วงปี 1933 สถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่นี่ก็ดูทันสมัยมาก ”
พระราชวังที่ 3 สร้างขึ้นระหว่างปี1933-1938 ออกแบบสองชั้นตกแต่งสไตล์ยุโรปอันโดดเด่นผสมผสานกับสไตล์เอเชีย มี 25 ห้อง ชั้นล่างเป็นที่ประทับทรงงานและต้อนรับแขก ชั้นบนเป็นห้องประทับของพระราชา มีห้องส่วนพระองค์สำหรับพระราชา พระราชินีนามเฟือง เจ้าฟ้าชายและเจ้าฟ้าหญิง ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ยังคงรักษาสภาพเดิมได้ค่อนข้างสมบูรณ์โดยมีประตูไม้ที่สะท้อนสีสันแห่งกาลเวลา บนผนังมีภาพถ่ายขาวดำและภาพเหมือนของกษัตริย์บ๋าวด๋าย บอกเล่าเรื่องราวในยุคที่รุ่งเรืองของกษัตริย์องค์สุดท้าย คุณ หว่างวันฉิ่งห์ ไกด์นำเที่ยวที่พาแขกจากเตวียนกวางไปเที่ยว ดาลัด เผยว่า
“นักท่องเที่ยวที่มาเยือนต่างชื่นชมว่าสถานที่แห่งนี้สวยงามมาก วัตถุโบราณที่นี่ยังคงสภาพสมบูรณ์ จึงถือเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการค้นคว้าประวัติศาสตร์ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ภาคการท่องเที่ยวของดาลัต”
ภายในพระราชวัง บ๋าวด๋าย ยังคงเก็บรักษาสิ่งของวัตถุต่างๆที่ยังคงสภาพเดิม |
 |
การเดินชมวิวทิวทัศน์ตามทางเดินปูหิน ซึ่งกลิ่นของไม้เก่าและดอกไม้ในสวนที่ผสมผสานกันได้ก่อเกิดกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ที่หาได้ในที่นี่เพียงที่เดียว ถึงปลายทางก็เป็นศาลาชมจันทร์ที่เงียบสงบ ซึ่งตามเรื่องที่กล่าวขานกันว่ามีครั้งหนึ่งที่กษัตริย์และราชินีเคยทอดพระเนตรพระจันทร์เต็มดวง ล้อมรอบพระราชวังคือสวนดอกไม้หลากสีสันพร้อมทางเดินเล็กๆที่ได้รับการตัดแต่งอย่างละเอียด ทำให้ทุกอย่างล้วนมีร่องรอยแห่งกาลเวลา คุณทูถวี นักท่องเที่ยวจากฮานอย ได้กล่าวถึงความรู้สึกและคุณค่าของพระราชวัง บ๋าวด๋าย หลังจากได้พาลูกๆ มาเยี่ยมชมว่า “ในด้านภูมิทัศน์และสถาปัตยกรรม ฉันคิดว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนดาลัด พระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินป่าสนที่โรแมนติกมาก อากาศก็บริสุทธิ์ ต้องยอมรับว่าถ้าย้อนไปกว่า 80 ปีก่อนสามารถสร้างสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในที่สวยงามทันสมัยอย่างนี้ก็ไม่แพ้ปัจจุบันเลย ดิฉันประทับใจมาก นอกจากมีความสวยงามแล้ว พระราชวังแห่งนี้ยังช่วยให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์มากขึ้น รวมถึงเรื่องราวของกษัตริย์องค์สุดท้ายของเวียดนาม การมาเยือนครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการท่องเที่ยวแต่ยังได้รับความรู้ทางประวัติศาสตร์จากความเป็นจริง คุ้มค่ามาก”
ท่ามกลางวิถีชีวิตที่ทันสมัย พระราชวัง บ๋าวด๋าย ยังคงตั้งอยู่อย่างเงียบสงบเหมือนเป็นพยานแห่งกาลเวลา โดยนักท่องเที่ยวจะมีโอกาสสัมผัสความงามแบบคลาสสิกท่ามกลางธรรมชาติอันสดชื่น พร้อมรับฟังเรื่องราวของราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งอนุรักษ์ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ เท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนความกลมกลืนระหว่างผู้คน สถาปัตยกรรม และธรรมชาติของดาลัต นับเป็นไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศควรมาสัมผัสสักครั้งเมื่อมีโอกาสมาเที่ยว ดาลัด./.
Thế Hùng